xs
xsm
sm
md
lg

“เฮียฮ้อ” สั่งลุยแยก 6 ธุรกิจ ดันมาร์เกตแคปแสนล้านปี 68

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 - “เฮียฮ้อ” สั่งลุย ดันอาร์เอสสร้างมาร์เกตแคป ทะยานสู่ 1 แสนล้านบาทให้ได้ภายใน 3 ปี หรือในปี 2568 ด้วยแยกเป็น 6 กลุ่มธุรกิจ วางยุทธศาสตร์รวมต้นน้ำถึงปลายน้ำ ดันบริษัทลูกเข้าตลาดหุ้น สร้างอีโคซิสเต็มสมบูรณ์แบบ

นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS กล่าวว่า บริษัทฯ ได้วางเป้าหมายว่าภายใน 3 ปีจากนี้ (ปี 2566-2568) จะต้องสร้างมาร์เกตแคปของบริษัทหรือมูลค่าบริษัท (Market Cap) สูงถึง 1 แสนล้านบาทให้ได้ ด้วยการตั้งเป้าเป็น ‘Life Enriching’ มุ่งมั่นในการยกระดับทุกมิติการใช้ชีวิตของลูกค้าผ่านทุกธุรกิจในเครือ
ด้วยการจัดโครงสร้างองค์กรใหม่โดยแบ่งเป็น 6 กลุ่มธุรกิจ เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์องค์กร ซึ่งจะนำไปสู่การเติบโตที่แข็งแกร่งในแนวตั้ง และจะขยายธุรกิจใหม่ๆ ในแนวราบ นับเป็นการสร้างอีโคซิสเต็มของอาร์เอส กรุ๊ป ให้เติบโตยั่งยืนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และเตรียมความพร้อมของอาร์เอส กรุ๊ป เพื่อ Spin-Off บริษัทในเครือเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์
 


“ผ่านมา 3 ปีแล้วที่อาร์เอส กรุ๊ป ประกาศรีแบรนด์ และสามารถทรานส์ฟอร์มองค์กร ภายใต้โมเดลธุรกิจ Entertainmerce ได้สำเร็จ จนเป็นหนึ่งในองค์กรชั้นนำที่ได้รับการยกย่องให้เป็นกรณีศึกษาในการทรานส์ฟอร์มธุรกิจ ถึงแม้ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาต้องพบเจอกับสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง ทั้งโควิด-19 และปัญหาเศรษฐกิจ แต่อาร์เอส กรุ๊ป ก็ปรับตัวอย่างรวดเร็วและมองหาโอกาสในวิกฤตอยู่เสมอ จนสามารถยืนหยัดพาองค์กรเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และปีนี้ถือเป็นปีที่ท้าทายมากที่สุดของอาร์เอสตั้งแต่ก่อตั้งมาประมาณ 41 ปีแล้ว ที่เรามีความพร้อมที่จะเดินหน้าขยายธุรกิจเพื่อเป้าหมายที่ตั้งไว้”

ทั้งนี้ ตามโครงสร้างองค์กรธุรกิจใหม่ จะแบ่งออกเป็น 6 กลุ่มหลักดังนี้
1. RS Multimedia ซึ่งประกอบด้วย ช่อง 8 และ COOLfahrenheit
2. RS Music ซึ่งประกอบด้วยค่ายเพลง RSIAM, kamikaze, RoseSound และบริษัท โฟร์ท แอปเปิ้ล
3. RS LiveWell ซึ่งประกอบด้วย RS Mall และแบรนด์ผลิตภัณฑ์ well u, Vitanature+, Lifemate และ Camu C
4. RS Connect ซึ่งประกอบด้วย ULife และ De Beste
5. RS Pet All ธุรกิจใหม่ที่ประกอบธุรกิจครบวงจรสำหรับสัตว์เลี้ยง
6. R Alliance ดูแลด้านการลงทุน ตามกลยุทธ์​ M&A และ JV


อย่างไรก็ตาม นายสุรชัยย้ำว่า ระหว่างทางหากมีธุรกิจใดที่มีโอกาสและมีความเป็นไปได้ เราก็จะเข้าไปลงทุนทำธุรกิจนั้น เพื่อเติมเต็มและสร้างโอกาสในการสร้างอีโคซิสเต็มให้สมบูรณ์มากขึ้นต่อเนื่อง เราไม่ปิดกั้นตัวเอง

ปัจจุบัน อาร์เอสกรุ๊ปมีมาร์เกตแคปสูงสุดที่ประมาณ 3 หมื่นกว่าล้านบาทเมื่อช่วงประมาณ 3 ปีที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งมั่นใจว่าจะไปได้ถึง 1 แสนล้านบาท ตามยุทธศาสตร์การทำธุรกิจที่เราวางไว้ โดยจะต้องมีการเติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าปีละ 30-40%

โดยแต่ละกลุ่มธุรกิจก็จะมีการขยายตัว มีการลงทุน การตลาด การพัฒนาสินค้า การขยายกลุ่มเป้าหมาย อย่างต่อเนื่องตามแต่ละกลุ่มอยู่แล้วด้วยงบประมาณการลงทุนปกติ ส่วนบริษัท R Alliance จะทำหน้าที่เหมือนหัวหอกในการลงทุนธุุรกิจใหม่ๆทั้งการซื้อหุ้น การเทกโอเวอร์ การร่วมทุน ในธุรกิจที่เราสนใจ ซึ่งในปีนี้มีแผนที่จะเข้าลงทุนอย่างน้อย 2-3 ดีลและดำเนินการอยู่ และแต่ละดีลจะมีมูลค่าการลงทุนเฉลี่ยตั้งแต่ 300-600 ล้านบาท

นายสุรชัยกล่าวถึงกลุ่มธุรกิจเพลงซี่งเป็นธุรกิจดั้งเดิมตัวหลักของอาร์เอสด้วยว่า ปีนี้อาร์เอสจะกลับมารุกธุรกิจเพลงอีกครั้ง หลังจากที่ถอยจากธุรกิจนี้มามากกว่า 10 ปี แบบไม่ได้มุ่งเน้นอะไรมาก แต่ขณะนี้สภาพการณ์เปลี่ยนไป เทคโนโลยีเปลี่ยนไป แพลตฟอร์มใหม่ๆ เติบโตมาก เราจะกลับสู่วงการเพลงอีกครั้งในรูปแบบใหม่ๆ มั่นใจว่าการกลับมาครั้งนี้ถูกที่ถูกเวลา ด้วยโมเดลธุรกิจใหม่ที่ชัดเจน มีพาร์ตเนอร์ใหม่ที่แข็งแกร่ง และการเติบโตอย่างต่อเนื่องของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ภายใต้ 3 ค่ายเพลง RSIAM, kamikaze และ RoseSound ด้วยโปรเจกต์ RS Homecoming และ RS Newcomers เพื่อสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการเพลงในเร็วๆ นี้


นายวิทวัส เวชชบุษกร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน กล่าวว่า “ปีนี้ อาร์เอส กรุ๊ป ยังคงขับเคลื่อนธุรกิจด้วยโมเดล Entertainmerce ที่แข็งแกร่ง พร้อมมุ่งสู่การเป็น Life Enriching โดยโฟกัสที่การเจาะตลาด Mass และเพิ่ม Accessibility การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้นด้วยช่องทางการจำหน่ายและพาร์ตเนอร์ที่หลากหลาย ซึ่งคาดว่าจะผลักดันรายได้ปี 2566 ให้ไปสู่เป้าหมายที่ 5,500 ล้านบาท โดยมาจากธุรกิจคอมเมิร์ซ 3,100 ล้านบาท และธุรกิจมีเดียและเอนเตอร์เทนเมนต์ 2,400 ล้านบาท”


กำลังโหลดความคิดเห็น