ผู้จัดการรายวัน 360 - มิตซูบิชิ อีเล็คทริค เชื่อมั่นตลาดปี 66 เดินหน้าลงทุนพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เสริมความแข็งแกร่งรักษาแชมป์ตลาดเครื่องปรับอากาศ เปิดประเดิมไลน์ผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศภายในบ้านกลุ่มอินเวอร์เตอร์รุ่นใหม่ พร้อมดึงนนท์-ธนนท์ นั่งแท่นพรีเซ็นเตอร์ ตั้งเป้ายอดขายเติบโตกว่า 19%
นายชินจิ คามิยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด กล่าวว่า ปีงบประมาณ 2566 (เมษายน 2566-มีนาคม 2567) ที่กำลังจะถึงนี้ บริษัทฯ จะใช้งบการตลาดและการสร้างแบรนด์มากถึง 1,200 ล้านบาท มากกว่าช่วงปกติที่ผ่านมาเพื่อทำการตลาดผลิตภัณฑ์เครื่้องใช้ไฟฟ้ามิตซูบิชิเต็มที่ ซึ่งมั่นใจว่าภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้จะฟื้นตัวดีขึ้นกว่าปีที่แล้วหลังจากที่ปีที่ผ่านมามาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ได้ผ่อนคลายลง และประชาชนกลับมาดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกับโควิด-19 ได้ภายใต้การใช้ชีวิตวิถีปกติใหม่ จึงคาดหวังได้ว่าสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าจะฟื้นตัวดีขึ้น เติบโต 8% หลังจากที่ภาพรวมปีที่แล้วตกลง 5%
ในส่วนของมิตซูบิชิ ด้านยอดขายในปีงบประมาณ 2565 (เมษายน 2565-มีนาคม 2566) คาดว่าจะเติบโตได้ที่ 10% และปีงบประมาณหน้าคาดว่าจะเติบโต 19% อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์เงินเฟ้อภายในประเทศ รวมถึงสภาวะอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย ส่งผลต่อตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจเครื่องปรับอากาศของบริษัทฯ และภาพรวมได้รับผลกระทบและเติบโตน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่บริษัทฯ ก็ยังคงสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับหนึ่งไว้ในผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศและปั๊มน้ำอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา
นายประพนธ์ โพธิวรคุณ กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด เปิดเผยว่า “กว่า 3 ปีที่เราอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ภาคธุรกิจต่างๆ ได้รับผลกระทบรวมถึงในกลุ่มธุรกิจตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าก็เช่นกัน บริษัทฯ จึงมุ่งมั่นในมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัดทุกครั้ง ในการให้บริการหลังการขาย โดยคำนึงถึงสุขอนามัยและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นสำคัญ อีกทั้งปัจจุบันผู้คนใช้ชีวิตอยู่บ้านมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการด้านบริการหลังการขายมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น เช่น การดูแลรักษาและล้างเครื่องปรับอากาศ รวมไปถึง Express Team Service หรือบริการซ่อมด่วน เสร็จไว ภายใน 24 ชม. ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งได้การตอบรับเป็นอย่างดีตลอดปีที่ผ่านมา โดยสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้ตามเป้าหมายที่วางไว้กว่า 92%
นอกจากนี้ เรายังคงสานต่อในเรื่องการพัฒนาบุคลากรช่างเทคนิคให้มีทักษะความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อรักษามาตรฐานและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค โดยได้ฝึกอบรมทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติอย่างเข้มข้น รวมถึงเปิดใช้พื้นที่อาคาร AI Center ให้เป็นศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพเครื่องปรับอากาศขนาดเล็ก ระดับ 1 ซึ่งได้รับการรับรองจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงานมาตั้งแต่ปี 2563 เรื่อยมาถึงปัจจุบัน โดยผู้ที่สนใจสามารถติดต่อเข้ารับการอบรมหรือทดสอบได้ที่บริษัท
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้พัฒนาศักยภาพความพร้อมในระบบโครงสร้างพื้นฐานการจัดจำหน่าย โดยได้พลิกโฉมโชว์รูม AI Gallery ซึ่งตั้งอยู่ในที่ทำการสำนักงานใหญ่ใหม่ทั้งหมด เพื่อให้เป็นพื้นที่ที่มีความพร้อมสมบูรณ์ต่อการนำเสนอให้ลูกค้าและผู้เยี่ยมชมได้สัมผัสถึงคุณสมบัติและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่สามารถเติมเต็มทุกความต้องการได้ ภายใต้แนวคิด “โซลูชัน เพื่อการประหยัดพลังงาน พร้อมความสะดวกสบาย” (Solutions for Energy Saving with Comfort and Convenience) ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านการประหยัดพลังงาน ความสะดวกสบายในการใช้งาน ที่เหมาะสมทั้งการใช้งานภายในบ้านและการใช้งานเชิงพาณิชย์ นอกจากนี้ ด้านการขนส่งโลจิสติกส์ และการบริการหลังการขาย บริษัทฯ ได้พัฒนางานด้านการบริการ เพื่อการขนส่งผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพไปยังลูกค้าอย่างรวดเร็ว เพื่อยกระดับความพึงพอใจของลูกค้า”
ในปีนี้ บริษัทฯ ได้ปรับองค์กรสู่ Digital Transformation นำเทคโนโลยีเข้ามายกระดับการบริการหลังการขายให้มี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเชื่อมโยงผ่านระบบออนไลน์ และปรับการทำงานในรูปแบบดิจิทัลมากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการในการรับบริการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าในระยะยาว โดยได้ยกระดับการบริการหลังการขายให้สมบูรณ์แบบ ด้วยการพัฒนาระบบ Online Service System ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เน้นการเชื่อมโยงระบบบริการหลังการขายของศูนย์บริการมิตซูบิชิ อีเล็คทริค สำนักงานใหญ่ และศูนย์บริการแต่งตั้งทั่วประเทศไว้บนแพลตฟอร์มเดียวกัน เพื่อให้การติดต่อประสานงานในการแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าเป็นไปอย่างรวดเร็ว สามารถติดตามความคืบหน้าในการให้บริการแก่ลูกค้าแต่ละรายได้แบบเรียลไทม์ทุกขั้นตอน
รวมถึงเดินหน้าพัฒนาระบบ Warranty Online Register เพื่อให้ลูกค้าสามารถลงทะเบียนรับประกันสินค้าแบบเรียลไทม์ออนไลน์ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งการนำระบบ Online Service เข้ามาใช้ในการทำงาน จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนความพึงพอใจของลูกค้าทั้งกลุ่ม B2C และ B2B ได้มากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันบริษัทฯ ได้มีการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการจัดการโลจิสติกส์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยเสริมความได้เปรียบทางการแข่งขัน บริษัทฯ ได้ดำเนินการพัฒนาระบบขนส่งโลจิสติกส์ ตั้งแต่การสร้างคลังสินค้าขึ้นใน 2 ภูมิภาค เพื่อเป็นศูนย์กระจายสินค้า โดยทางภาคเหนือ ที่จังหวัดลำปาง และในเขตภาคอีสานที่จังหวัดขอนแก่น พร้อมพัฒนาระบบการจัดการที่ทันสมัย เชื่อมโยงเครือข่ายจากศูนย์กลางผ่าน Online Service System เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งมอบสินค้าให้แก่ลูกค้าในสภาพสมบูรณ์และรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญที่จะช่วยให้ระบบการจัดจำหน่ายโดยรวมมีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนได้ บริษัทฯ จะยังคงเดินหน้ายกระดับมาตรฐานการบริการให้ดียิ่งขึ้น เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า ภายใต้นโยบาย “รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ” เราไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาเพื่อขับเคลื่อนแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้า มิตซูบิชิ อีเล็คทริค ให้ประสบความสำเร็จ และอยู่ในใจของผู้บริโภคชาวไทยตลอดไป
ปีนี้บริษัทฯ วางแผนสื่อสารการตลาดครบวงจร ทั้งการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ การสร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านพรีเซ็นเตอร์คนล่าสุดของเครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม นนท์-ธนนท์ จำเริญ ตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่มีภาพลักษณ์เป็นมิตร เข้าถึงง่าย และมีความสามารถโดดเด่นด้านการร้องเพลง ได้แชมป์จากรายการประกวดเดอะวอยซ์ไทยแลนด์และ The Mask Singer เป็นที่ชื่นชอบในกลุ่มคนทุกวัยโดยเฉพาะวัยรุ่น ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยสร้างการรับรู้ในวงกว้างและสร้างความจดจำให้แบรนด์ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มิตซูบิชิจะเจาะเข้าไปมากขึ้น
นายชิซุโอะ นาคาสึคาสะ กรรมการและผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาดและการขาย บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด เปิดเผยว่า “แม้ว่าตลาดรวมเครื่องปรับอากาศของไทยในปี 2565 ที่ผ่านมามีการเติบโตน้อยลง แต่ยังเชื่อว่าแนวโน้มตลาดเครื่องปรับอากาศในปีนี้จะสามารถกลับมาคึกคักอีกครั้งจากสัญญาณทางเศรษฐกิจที่ค่อยๆ ฟื้นตัว รวมถึงนโยบายส่งเสริมการลงทุนและกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยคาดว่าจะเติบโตราว 5-10% และในปีนี้บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ต่อยอดขยายฐานผู้บริโภคให้กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยชูความเป็นแบรนด์เครื่องปรับอากาศและเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านคุณภาพ ที่เน้นเทคโนโลยีล้ำสมัย ตอบรับการใช้ชีวิตยุคใหม่ ช่วยให้การอยู่อาศัยสะดวกสบายยิ่งขึ้น พร้อมสุขอนามัยที่ดีและประหยัดพลังงาน ผ่านการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อรองรับทุกความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศภายในบ้านที่เน้นเสริมไลน์อัพระบบอินเวอร์เตอร์เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าของมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวในปีนี้ ได้แก่
• เครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม ระบบอินเวอร์เตอร์ ใหม่ รุ่น Happy Inverter KX Series ออกแบบมาเพื่อความสบายด้วยดีไซน์ที่สะดวกต่อการล้างทำความสะอาดได้ง่าย พร้อมฟังก์ชัน ครบครัน คุ้มค่า ในระดับราคาที่จับต้องได้ โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Fast Cooling เย็นเร็วทันใจ และ V-Air Filter แผ่นกรองฝุ่นที่ออกแบบพิเศษ ช่วยจัดการอากาศภายในห้องให้สะอาด ปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ กำจัดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อราได้ในระดับเซลล์ พร้อมประหยัดพลังงานด้วยฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
• ตู้เย็นรุ่นใหม่ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบรับวิถี New Normal ด้วยการเพิ่มพื้นที่จัดเก็บได้มากยิ่งขึ้น พร้อมประหยัดพลังงานด้วยระบบ Neuro Inverter ตู้เย็น 4 ประตู รุ่น 4D Smart Freeze เก็บของได้จุใจด้วยขนาดความจุถึง 400 ลิตร โดดเด่นด้วยฟังก์ชันช่องแช่แข็ง 2 ลิ้นชักแยกอิสระจากกัน พร้อมเทคโนโลยีถนอมอาหารด้วยช่องแช่เย็นจัด Supercool Chilling ช่วยคงความสดของเนื้อได้นาน และ Vitamin Factory คงคุณค่าวิตามินในผักใบเขียว ประหยัดไฟเบอร์ 5 ระดับ 2 ดาว และตู้เย็น 2 ประตู รุ่น FC Series มาพร้อมกล่องจัดระเบียบของพิเศษ Extra Box ตัวช่วยจัดระเบียบทำให้มีพื้นที่จัดเก็บสิ่งของได้มากขึ้น
• พัดลมมิตซูบิชิ อีเล็คทริค โดดเด่นด้วยมาตรฐานความปลอดภัยระดับพรีเมียม สีขาวและสีน้ำตาลใหม่ ผลิตจาก
วัสดุไม่ลุกลามไฟ รวมถึงปลั๊ก 3 ขา ช่วยป้องกันไฟดูด พร้อมระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อมอเตอร์มีอุณหภูมิสูง เพิ่มความมั่นใจปลอดภัยในทุกการใช้งาน พร้อมกล่องเหล็กครอบสวิตช์ มั่นใจ ปลอดภัยระดับพรีเมียม ประหยัดไฟเบอร์ 5 ระดับ 3 ดาว
นอกจากผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ได้เปิดตัวในปีนี้ บริษัทฯ เดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งทางการขายผ่านกลยุทธ์การสื่อสารและกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยยังคงเดินแผนกลยุทธ์ Sport Marketing ด้วยการเป็นผู้สนับสนุนสโมสรฟุตบอล บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (BGPU) เป็นปีที่ 5 พร้อมสร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านทั้งสื่อหลักและช่องทางออนไลน์ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคในยุคดิจิทัล เช่น Social Media, VDO Content, การใช้ Influencer และ KOL เป็นต้น รวมทั้งมีแผนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย และแคมเปญการตลาด พร้อมสนับสนุนช่องทางการขายให้แก่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้วางแผนสื่อสารการตลาดครบวงจร ทั้งการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ การสร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านพรีเซ็นเตอร์คนล่าสุดของเครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม นนท์-ธนนท์ จำเริญ ตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่มีภาพลักษณ์เป็นมิตร เข้าถึงง่าย และมีความสามารถโดดเด่นด้านการร้องเพลง ได้แชมป์จากรายการประกวดเดอะวอยซ์ไทยแลนด์และ The Mask Singer จนเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่ชื่นชอบในกลุ่มคนทุกวัยโดยเฉพาะวัยรุ่น ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยสร้างการรับรู้ในวงกว้างและสร้างความจดจำให้แบรนด์ได้เป็นอย่างดี โดยภาพยนตร์โฆษณาชุด “มิตซูบิชิ อีเล็คทริค ไม่หยุดทำ แค่คำว่าดี” สื่อถึงความตั้งใจ ความมุ่งมั่นของนนท์ในการฝึกฝนร้องเพลง จนกว่าจะได้โทนการร้องที่ดีที่สุด แม้ว่าจะเป็นที่หนึ่งจากเวทีประกวดร้องเพลงมาแล้ว ก็ไม่เคยหยุดพัฒนาตนเองเพื่อการร้องเพลงให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป เช่นเดียวกับที่มิตซูบิชิ อีเล็คทริค เป็นแบรนด์เครื่องปรับอากาศภายในบ้านอับดับ 1 ที่ครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดมาอย่างต่อเนื่อง และเป็นแบรนด์อันดับ 1 ที่ผู้บริโภคให้ความเชื่อมั่น โดยในภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ตอกย้ำถึงดีเอ็นเอของมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ด้านการมุ่งมั่นว่าจะต้องทำในสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดีที่สุด ไม่หยุดพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้ดียิ่งขึ้นในทุกๆ วัน เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิต และเพื่อความสุขของผู้บริโภคทุกคน โดยจะเริ่มออกอากาศกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้”
“จากกลยุทธ์การตลาดต่างๆ เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจ และเพิ่มทางเลือกที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ บริษัทฯ มั่นใจว่าจะช่วยสานต่อความสำเร็จในการทำตลาดของมิตซูบิชิ อีเล็คทริค และผลักดันยอดขายให้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้” นายชิซุโอะ นาคาสึคาสะ กล่าว