ขบ.เปิดยอดชำระภาษีรถประจำปี 2565 มีรายได้รวมกว่า 3.35 หมื่นล้านบาท จำนวนรถทั่วประเทศกว่า 26.49 ล้านคัน แนะชำระภาษีรถผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax และเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th สะดวก รวดเร็ว
นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวว่า ตัวเลขผู้ใช้บริการชำระภาษีรถยนต์และรถจักรยานยนต์ประจำปี 2565 ระหว่างวันที่ 1 มกราคม-31 ธันวาคม 2565 ขบ.สามารถจัดเก็บภาษีรถประจำปีทั่วประเทศได้ทั้งสิ้น 33,570,808,972.57 บาท โดยมีผู้ใช้บริการชำระภาษีรถประจำปีออนไลน์ รวมจำนวน 759,600 คัน แบ่งเป็น ช่องทางแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax, เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th, เคาน์เตอร์เซอร์วิส, แอปพลิเคชัน mPAY และ Truemoney Wallet
ในส่วนการใช้บริการรับชำระภาษีรถประจำปี ณ สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ มีผู้ใช้บริการจำนวน 26,499,407 คัน การใช้บริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) จำนวน 4,615,137 คัน ออกหน่วยเคลื่อนที่ 223,581 คัน ที่ทำการไปรษณีย์ จำนวน 9,430 คัน ผ่านช่องทางธนาคาร จำนวน 31,425 คัน รวมมียอดผู้ใช้บริการชำระภาษีประจำปี 2565 ทั้งสิ้น 32,138,580 คัน
ทั้งนี้ ขบ.ได้ยกระดับการให้บริการในการชำระภาษีรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เพื่อสร้างมาตรฐานคุณภาพการบริการภาครัฐ ที่เข้าถึงและตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน และได้พัฒนาระบบชำระภาษีออนไลน์ เช่น แอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax, เว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก https://eservice.dlt.go.th, เคาน์เตอร์เซอร์วิส, แอปพลิเคชัน mPAY และ Truemoney Wallet เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน ซึ่งได้รับความนิยมจากประชาชน เนื่องจากเป็นช่องทางที่มีความสะดวก รวดเร็ว และไม่ต้องเดินทางมาที่สำนักงานขนส่ง อยู่ที่ไหนก็สามารถชำระภาษีได้
โดยแนะนำผู้ที่ต้องการชำระภาษีรถประจำปีสามารถชำระล่วงหน้าได้ก่อนครบอายุภาษี 90 วัน รถยนต์อายุการใช้งานเกิน 7 ปี รถจักรยานยนต์อายุการใช้งานเกิน 5 ปี รวมถึงรถที่ค้างชำระภาษีเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี สามารถนำรถเข้าตรวจสภาพ ณ สถานตรวจสภาพรถเอกชน ก่อนชำระภาษีล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์
สำหรับผู้ที่ชำระภาษีรถประจำปีผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax เมื่อมีการชำระภาษีรถประจำปีผ่านแอปพลิเคชันเรียบร้อยแล้ว สามารถเลือกให้จัดส่งเครื่องหมายการเสียภาษีและใบเสร็จรับเงินทางไปรษณีย์ ซึ่งจะได้รับภายใน 5 วันทำการนับจากวันชำระเงิน หรือเลือกพิมพ์เครื่องหมายการเสียภาษีด้วยตนเองที่ตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk) ภายในสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 ก็ได้ โดยในระหว่างที่รอรับเอกสาร ระบบจะแสดงหลักฐานการชำระภาษีรถประจำปีชั่วคราว เพื่อให้เจ้าของรถสามารถใช้เป็นหลักฐานแสดงการชำระภาษีจนกว่าจะได้รับเครื่องหมายการเสียภาษีประจำปีจากกรมการขนส่งทางบก
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ได้เข้าสู่สภาวะปกติและได้มีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ จากทางภาครัฐ ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าในปี 2566 นี้จะมีประชาชนเข้ามาใช้บริการชำระภาษี ณ สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ เป็นจำนวนมาก กรมการขนส่งทางบกได้เตรียมความพร้อมและจัดเจ้าหน้าที่ในการให้บริการชำระภาษีได้อย่างเต็มศักยภาพ เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนให้ได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว