SHARGE ผนึก Shell-Porsche สร้างปรากฏการณ์ระดับภูมิภาคในการติดตั้ง EV Charger ความเร็ว 180-360 kW ให้แก่สถานีบริการ Shell Recharge สถานีชาร์จยานยนต์พลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง หรือ HPC ในไทยทั้ง 11 แห่ง พร้อมพัฒนา Cross Border Integration เชื่อมแอปพลิเคชัน SHARGE กับผู้ให้บริการในมาเลเซีย นับเป็นเครือข่าย EV Charger ที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นายพีระภัทร ศิริจันทโรภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SHARGE) ผู้นำด้าน EV Charging Ecosystem เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ร่วมกับบริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด (Shell) และปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิก ผู้ผลิตรถสปอร์ตสมรรถนะสูงชั้นนำของโลก ในการยกระดับ EV Infrastructure ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เติบโตรองรับเมกะเทรนด์การใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ด้วยการเป็นผู้จำหน่ายและผู้ติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) ขนาด 180kW ซึ่งเป็นความเร็วที่สูงที่สุดในไทยในขณะนี้ ให้แก่สถานี “Shell Recharge” และสถานีชาร์จยานยนต์พลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง (HPC) ทั้ง 11 แห่งในไทย ตามโรดแมปการขยายเครือข่าย EV Charger ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ข้ามพรมแดน 3 ประเทศ คือ ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ที่ทาง Shell และ Porsche ได้ประกาศวิสัยทัศน์ไปก่อนหน้านี้ โดยผู้ใช้งานสามารถชาร์จพลังงานจาก 0% State of Charge (SoC) ถึงระดับ 80% ภายใน 30 นาที เดินทางได้สูงสุดถึง 390 กิโลเมตร สำหรับรถปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan)
“ด้วยนวัตกรรม HPC อันแข็งแกร่งของ SHARGE กับ 2 บริษัทระดับโลกอย่าง Shell และ Porsche จะช่วย Scale Up ภารกิจขยาย EV Infrastructure ของเราให้ไปไกลกว่าเดิม เพราะเรากำลังร่วมกันสร้างเครือข่ายใหญ่ระดับภูมิภาคให้ผู้ใช้รถ EV เข้าถึงสถานีชาร์จประสิทธิภาพสูงที่เร็วแรงที่สุดได้ง่ายขึ้น ทั้งยังเป็นโอกาสสำคัญของวงการ EV Charger ประเทศไทย ที่ได้ยกระดับเทคโนโลยีการให้บริการสู่มาตรฐานสากลระดับโลก สามารถเชื่อมเข้ากับเครือข่าย EV Charger แบบข้ามพรมแดนได้เป็นครั้งแรก สะท้อนถึงความพร้อมของ SHARGE ในการเดินหน้าขยายบริการ EV Charger ไปยังประเทศต่างๆ ในอนาคต” นายพีระภัทรกล่าว
ด้วยมาตรฐานการพัฒนาแอปพลิเคชันและบริการ EV Charger ระดับสากล บริษัทยังได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ผสานการทำงานระหว่างแอปพลิเคชันแบบข้ามประเทศ (Cross Border Integration) เชื่อมโยงแอปพลิเคชันของ SHARGE เข้ากับแอปพลิเคชันของผู้ให้บริการสถานี HPC 6 แห่งในมาเลเซีย ส่งผลให้ผู้ใช้บริการรถ EV ทุกคันสามารถค้นหาสถานี HPC ของ Shell Recharge ในมาเลเซีย รวมถึงจองคิว และจ่ายเงินได้ผ่านแอปฯ SHARGE สานฝันการเป็นเครือข่าย EV Charger ที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 2,200 กม.ของ Shell และ Porsche
เบื้องต้นบริษัทคาดว่าจะดำเนินการติดตั้งเครื่องชาร์จความเร็วสูงให้แก่สถานี HPC ของ Shell Recharge ทั้ง 11 แห่งทั่วประเทศได้อย่างต่อเนื่อง จนเปิดให้บริการทุกแห่งได้เร็วๆ นี้ และเชื่อมโยงบริการแอปพลิเคชันกับมาเลเซียเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 1/2566 ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีแผนขยายความร่วมมือกับ Shell อย่างต่อเนื่องด้วย เชื่อว่าความร่วมมือนี้จะส่งผลให้ยอดผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน SHARGE ทะลุ 20,000 ราย
นายเรืองศักดิ์ ศรีธนวิบุญชัย กรรมการบริหาร ธุรกิจโมบิลิตี้ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า เชลล์มีเป้าหมายสู่การเป็นธุรกิจพลังงานที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero Emission) ภายในปี พ.ศ. 2593 เชลล์จึงพัฒนาโซลูชันด้านพลังงานหลายรูปแบบเพื่อตอบโจทย์ความต้องการพลังงานมากขึ้น โดยที่ต้องเป็นพลังงานที่สะอาดมากขึ้นและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเรามีประสบการณ์อยู่ทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นพลังงานโซลาร์ ไฮโดรเจน พลังงานลม เชื้อเพลิงชีวภาพ และพลังงานไฟฟ้า ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของนโยบายประเทศและความต้องการของลูกค้าเป็นปัจจัยสำคัญ
“เชลล์เปิดตัวสถานีชาร์จพลังงานไฟฟ้าสมรรถนะสูง HPC 180 kW แห่งแรก เป็นการขยายเครือข่ายการให้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้าที่ยาวที่สุดของเชลล์ จากสิงคโปร์ มาเลเซีย และเข้าสู่ประเทศไทย ถือเป็นการขับเคลื่อนการเดินทางสำหรับอนาคตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เกิดเส้นทางสัญจรที่ปราศจากมลภาวะมุ่งสู่การเดินทางที่ยั่งยืน” นายเรืองศักดิ์กล่าว
ทั้งนี้ เชลล์มีความมุ่งมั่นอย่างสูงในการเปลี่ยนผ่านพลังงานเพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ การทำงานร่วมกับ SHARGE ในการให้บริการสถานีชาร์จยานยนต์พลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงในไทยรายแรกของเชลล์ จะช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงพลังงานสะอาด และยกระดับมาตรฐานของการใช้งานของจุดชาร์จรถไฟฟ้าในไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้มีความแข็งแกร่ง ตามเจตนารมณ์ของเชลล์
ทั้งนี้ เชลล์ยังร่วมกับปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิก มอบเอกสิทธิ์เพื่อการดูแลที่เหนือระดับสำหรับเจ้าของรถยนต์ปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan) ที่เป็นลูกค้ารายใหม่ในประเทศไทย จะได้รับสิทธิพิเศษสำหรับสถานะสมาชิกระดับ Platinum โดยไม่มีค่าใช้จ่ายตลอด 3 ปี สามารถจองใช้บริการล่วงหน้า 1 ชั่วโมง โดยไม่คิดค่าธรรมเนียมจอง พร้อมรับส่วนลด 50% สำหรับการชาร์จสูงสุด 850 kW ต่อปี และคะแนน Shell GO+ ถึง 10,000 คะแนน สำหรับแลกรับส่วนลดการเติมน้ำมัน หรือซื้อสินค้าและบริการในสถานีบริการน้ำมันเชลล์ เช่น ร้านสะดวกซื้อเชลล์ ซีเล็ค ร้านเชลล์ คาเฟ่ หรือ เดลี่คาเฟ่ เมื่อใช้บริการสถานี Shell Recharge ผ่านแอปพลิเคชัน SHARGE
ปัจจุบัน SHARGE ให้บริการธุรกิจแก่ลูกค้าใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1. Charger Sales & Installation ขายและติดตั้งเครื่องชาร์จให้แก่เจ้าของบ้านจัดสรร บ้านส่วนตัว 2. Charging as a Service ขายพลังงานไฟฟ้าสำหรับชาร์จรถยนต์ EV ตามจุดให้บริการสาธารณะต่างๆ หรือตามอาคารที่มีผู้อยู่อาศัยจำนวนมาก เช่น คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า โรงแรม โรงพยาบาล กว่า 200 แห่ง ฯลฯ 3. Custom Corporate & Fleet Solution ขายพลังงานไฟฟ้าให้แก่องค์กรเอกชนและผู้ให้บริการยานพาหนะจำนวนมาก