"ชูวิทย์" แฉหญิงจีนหิ้วถุงเงิน 600,000 บาทมาให้ “รองหมา” ลูกน้องคนสนิท ผบช.น. เพื่อ “ยื่นหมูยื่นแมว” ขอไถ่รถปอร์เช่ของกลางในคดี “จินหลิง” ซัดผ่านไป 2 เดือน ผบช.น.เพิ่งตื่นแอบย่องไปแจ้งข้อหา ม.149 และ ม.157 ต่อรองหมาเพื่อจะได้ไม่เป็นข่าว จี้นายกฯ อย่า “เอาหูไปนา เอาตาไปไร่” ผบช.น.นายนี้เข็นไม่ไหวแล้วครับท่าน ลั่นยังมีเรื่องให้แฉอีกเยอะ ยกเว้นจะย้าย ผบช.น.ออกจากพื้นที่
วันนี้ 31 ธ.ค. 65 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุ มีเรื่องให้แฉข้ามปีใหม่อีกเยอะ ตั้งแต่เกิดเหตุ “จินหลิง” 26 ตุลาคม นับถึงวันนี้ 30 ธันวาคม
เป็นระยะเวลา 2 เดือนกว่าที่ ผบช.น. ปล่อยปละละเลยในการตั้งข้อหา “รองหมา” พ.ต.อ.ณัฐพล โกมินทรชาติ ที่เป็นผู้ปล่อยรถของกลางในคดีออกไปอย่างชิลๆ
ในรูปจะเห็นผู้หญิงที่นำถุงเงิน 600,000 บาทมาให้รองหมาถึง สน.ยานนาวา ที่รองหมามารักษาการผู้กำกับฯ เพื่อขอไถ่รถปอร์เช่ของกลางในคดีที่คนจีนถูกยึดจากที่จินหลิง
พวกจีนเทาให้ผู้หญิงจีนหิ้วถุงเงินมาให้ ดูวันที่ในภาพระบุ 28 ตุลาคม หลังเกิดเหตุ “จินหลิง” เพียง 2 วัน และใบมอบอำนาจหลอกๆ ระบุวันที่ 28 ตุลาคมเช่นกัน
มีลายเซ็นรองหมา “อนุญาตให้คืนรถได้”
โดยมีตำรวจลูกน้องรองหมาลงมารับผู้หญิงหิ้วถุงเงิน พาขึ้นไปที่ห้องทำงานรองหมา
แล้วผู้หญิงสัญชาติจีนเครือข่ายจีนเทาก็ยังถ่ายรูปโต๊ะทำงานรองหมากับถุงเงิน เป็นหลักฐานส่งภาพกลับไปให้เจ้าของรถปอร์เช่สัญชาติจีน-กัมพูชา ว่าได้นำเงินมาให้รองหมาเรียบร้อยแล้ว
ทำกันได้ลงคอถึงเพียงนี้
ระยะเวลาผ่านไป 2 เดือน ผบช.น. “บิ๊กจ้าว” ไม่ทำอะไร เพราะรองหมาเป็นลูกน้องคนสนิทตัวเองที่ส่งไปรักษาการตำแหน่ง “ผู้กำกับฯ ยานนาวา” ท้องที่เกิดเหตุ หลังเกิดเรื่องจินหลิง
แบบนี้เรียกว่า “ยื่นหมูยื่นแมว” รองหมาลูกน้องท่าน ผบช.น.เก่งจริงๆ เรื่องพรรค์นี้ไม่รู้ว่าต้องแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้ใครข้างบนอีกไหม?
ชุดสืบรายงานให้ ผบช.น.ไปตั้งแต่ 2 เดือนก่อนแล้ว แต่ท่าน ผบช.น.นิ่งเงียบ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เพราะอะไรย่อมรู้อยู่แก่ใจ
แต่พอเมื่อวานผมเคาะสะกิดต่อมท่าน ผบช.น.ที่ ป.ป.ส.หน้าสื่อเจี๊ยวจ๊าว
ปรากฏว่าวันนี้วันหยุดยาว ท่านก็รีบแอบย่องไปแจ้งข้อหา ม.149 และ ม.157 ต่อรองหมา หลังจากไม่ได้ทำอะไรมากว่า 2 เดือน
เพื่อจะได้ไม่เป็นข่าว ช่วยกันปกปิดกลบเกลื่อน ช่วยเหลือ “รองหมาผู้ต้องหา” ทุกอย่าง
ท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือเสธ.เก๋ คนสนิทของท่านต้องรายงานแล้วว่า
“ผบช.น.นายนี้ เข็นไม่ไหวแล้วครับท่าน”
อย่าได้หวังคะแนนเสียงคนกรุงเทพฯ คงหล่นลงเหว เพราะท่าน “เอาหูไปนา เอาตาไปไร่”
ส่วนที่ ผบ.ตร.ตั้งคณะลิเกมาสอบสวนภาพบ่อน “จินหลิง” ที่ผมโพสต์ไปเมื่อวาน
คงสนองนโยบาย “ต้องไม่มีบ่อนในกรุงเทพฯ” ที่ตัวท่านเองประกาศไว้
หาก ผบ.ตร.เอาจริง ป่านนี้ตำรวจคงหายไปครึ่งหนึ่งของกรุงเทพฯ แล้วล่ะครับท่าน
ยังมีเรื่องให้ผมแฉข้ามปีใหม่อีกเยอะ
ยกเว้นจะย้าย ผบช.น.นายนี้ออกจากพื้นที่
ขืนให้อยู่คุมนครบาลต่อไป พี่น้องประชาชนคนกรุงเทพฯ ฝากความหวังไว้ไม่ได้ครับ
มีเรื่องให้ผมแฉทุกวัน จนทั้ง ผบ.ตร. และ ผบช.น.เก้าอี้ร้อน นั่งไม่ติด
แล้วต้องมีใครสักคนลุกไปนั่งเก้าอี้โยกที่บ้านแทน
ชูวิทย์โพสต์ทิ้งท้ายว่า เห็นแล้วปวดใจ ถึงยุคตกต่ำของนครบาลเอาเสียจริงๆ
คนกรุงเทพฯ หมดหวังเรื่องฝากบ้านไว้กับ ผบช.น.นายนี้
เพราะที่ทำงานลูกน้องคนสนิทท่านเอง ยังทำได้ถึงขนาดนี้
แล้วท่านยังเล่นมายากลให้คนไทยดูช่วงปีใหม่อีก
โถ น่าจะเล่นตลกดีกว่า