บางจากฯ ชู 5 กลยุทธ์ลุยตลาดค้าปลีกน้ำมันปี 66 ยันไม่ปรับแผนกลยุทธ์แม้ SPRC ฮุบคาลเท็กซ์ก็ตาม มั่นใจยอดขายธุรกิจการตลาดบางจากโต 10% หลังเร่งขยายสถานีบริการน้ำมันและธุรกิจ Non Oil
นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BCP) เปิดเผยกรณีที่บริษัทสตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) เตรียมขออนุมัติผู้ถือหุ้นเพื่อเข้าซื้อธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมภายใต้แบรนด์คาลเท็กซ์ว่า บริษัทยังคงเดินหน้าตามแผนงาน 5 กลยุทธ์ทางการตลาดที่กำหนดไว้ไม่ปรับเปลี่ยนใหม่ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
โดย 5 กลยุทธ์ดังกล่าวประกอบด้วย 1. การขยายสถานีบริการน้ำมันบางจากเพิ่มมากขึ้น โดยปี 2566 บริษัทตั้งเป้าเพิ่มจำนวนสถานีบริการน้ำมันบางจากอีก 80 แห่งจากสิ้นปีนี้อยู่ที่ 1,340 แห่ง รวมเป็น 1,420 แห่ง แบ่งเป็นการขยายสถานีบริการแบบ Unique Design ราว 20-30%
2. การพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมันที่มีคุณภาพที่ดี โดยล่าสุดได้ออกผลิตภัณฑ์พรีเมียมแก๊สโซฮอล์ ออกเทน 97 มาตรฐานสากลยูโร 5 ตอบโจทย์ผู้ใช้รถที่ต้องการสมรรถนะการขับขี่สูงและต้องการใช้น้ำมันคุณภาพดี โดยบางจากจะเร่งขยายสาขาเพื่อจำหน่ายน้ำมันพรีเมียมแก๊สโซฮอล์ ออกเทน 97 เพิ่มมากขึ้น
3. กลยุทธ์การนำระบบดิจิทัลมาใช้โดยมีการพัฒนาบัตรดิจิทัล (Digital Card) เพือให้สมาชิกบางจากไม่ต้องพกบัตร เพียงแต่ใช้แอปฯ ผ่านมือถือก็สามารถสะสมและแลกเปลี่ยนคะแนนสมาชิกบางจากกับร้านค้าพันธมิตรเพื่อใช้แต้มแลกสินค้าและบริการได้ 4. การขยายธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non Oil) เพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าขยายสาขาร้านกาแฟอินทนิลในปี 2566 เพิ่มขึ้นอีก 200-250 แห่งจากสิ้นปี 2565 อยู่ที่ 1,005 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็นสาขาในสถานีบริการน้ำมันบางจาก 600 แห่ง และนอกสถานีบริการน้ำมัน 400 แห่ง ซึ่งในจำนวนนี้เป็นสาขาของบริษัทเองประมาณ 250 แห่ง รวมทั้งขยายร้านอาหารรูปแบบสตรีท ฟูดส์ และ Grab & Go เพิ่มขึ้นอีก 350 ร้านภายในสถานีบริการน้ำมันบางจากทั่วประเทศเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
และ 5. กลยุทธ์ด้านความยั่งยืน โดยสนับสนุนสินค้าชุมชนเข้ามาจำหน่ายในสถานีบริการน้ำมันบางจาก รวมทั้งมีการนำสินค้าชุมชนมาเป็นแจกฟรีให้ลูกค้าที่เข้ามาเติมน้ำมันบางจาก เป็นต้น
จากกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจการตลาดดังกล่าวบริษัทตั้งเป้าปี 2566 มียอดขายน้ำมันเติบโตขึ้น 10% สูงขึ้น ภาพรวมตลาดค้าปลีกน้ำมันในประเทศที่ขยายตัวเพียง 4% เนื่องจากการขยายจำนวนสถานีบริการน้ำมันที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งภาพรวมความต้องการใช้น้ำมันของประเทศที่เพิ่มขึ้นจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ กอปรกับ จีนปลดล็อกดาวน์ทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนน่าจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ทำให้มีการใช้น้ำมันในการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น
นายสมชัยกล่าวต่อไปว่า ในปี 2566 บางจากตั้งงบลงทุนธุรกิจการตลาดไว้ที่ 2,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในธุรกิจน้ำมัน (Oil) ราว 70% ของงบลงทุน ใช้ในการขยายสถานีบริการน้ำมันใหม่และปรับปรุงสถานีบริการน้ำมันเดิม ส่วนที่เหลืออีก 30% ลงทุนในธุรกิจ Non Oil พร้อมวางเป้าหมายว่าในปี 2566 ธุรกิจ Non Oil มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) เพิ่มขึ้นเป็น 25% จากสิ้นปี 2565 อยู่ที่ 17-18% และขยับเพิ่มขึ้นเป็น 40% ในปี 2573
นอกจากนี้ บางจากฯ ยังมีแผนขยายสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในสถานีบริการน้ำมันบางจากเพิ่มอีก 50-70 จุด จากปัจจุบัน 107 จุด โดยจะจับมือกับพันธมิตรใหม่อีก 2-3 รายให้เข้ามาตั้งจุดชาร์จ EV เพิ่มขึ้น
