กรมการค้าภายในลงพื้นที่ตรวจสอบเครื่องชั่งกระเป๋าสัมภาระที่สนามบินดอนเมือง พร้อมสั่งนายตรวจ ออกตรวจสอบเครื่องชั่งในสนามบินพาณิชย์ทั้ง 33 แห่งทั่วประเทศ เพื่อดูแลประชาชนที่เดินทางช่วงปีใหม่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ให้ได้รับความเป็นธรรม เหตุน้ำหนักกระเป๋ามีผลต่อการถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น
ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายในหรือคน. เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ร่วมกับนายสุทัศน์ สุวรรณผ่องใส รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อตรวจสอบเครื่องชั่งน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระก่อนขึ้นเครื่องบิน ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง ว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ที่จะถึงนี้ จะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา รวมถึงเดินทางท่องเที่ยวโดยเครื่องบินเป็นจำนวนมาก จึงได้สั่งการให้นายตรวจชั่งตวงวัดในส่วนภูมิภาคดำเนินการตรวจสอบเครื่องชั่งในสนามบินพาณิชย์ทั้ง 33 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งมีเครื่องชั่งน้ำกระเป๋ารวมกว่า 1,000 เครื่อง ในจำนวนนี้เป็นเครื่องชั่งที่ใช้งานที่ท่าอากาศยานดอนเมือง 200 เครื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าประชาชนที่เดินทางไป-กลับต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ จะได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากในบางทีน้ำหนักของกระเป๋าสัมภาระมีผลต่อการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมของสายการบิน
“ที่ผ่านมา กรมฯ ได้ดำเนินมาตรการกำกับดูแลเครื่องชั่งน้ำหนักกระเป๋า โดยได้รับความร่วมมือจากกรมท่าอากาศยานและบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เป็นอย่างดีมาโดยตลอด โดยตรวจสอบให้คำรับรองเครื่องชั่งน้ำหนักกระเป๋าทุก 2 ปี เช่นเดียวกับเครื่องชั่งประเภทอื่น ๆ ซึ่งเครื่องชั่งที่ผ่านการตรวจสอบให้คำรับรองแล้ว จะมีสัญลักษณ์เป็นสติกเกอร์ ตราครุฑ ของสำนักงานกลางชั่งตวงวัด กรมการค้าภายใน ติดอยู่ที่เครื่องชั่ง”ร.ต.จักรากล่าว
ทั้งนี้ ผู้ที่ใช้เครื่องชั่งโดยที่รู้อยู่ว่าเครื่องชั่งนั้นแสดงผลผิดหรือไม่เที่ยงตรงเกินกฎหมายกำหนด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 79 แห่งพ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด โดยหากประชาชนพบเห็นการใช้เครื่องชั่งที่ไม่ได้มาตรฐาน เสื่อมคุณภาพ หรือไม่เที่ยงตรง สามารถแจ้งสายด่วน 1569 กรมการค้าภายในหรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ