“ประวิตร’ ไฟเขียว EIA โครงการเชื่อมโยงเศรษฐกิจ ความมั่นคงพลังงานไฟฟ้า- การพัฒนาแหล่งน้ำ และด้านคมนาคม จ่อประมูลสร้าง”สะพานเชื่อมเกาะลันตา”1,854 ล้านบาท และมอเตอร์เวย์สาย 7 ต่อขยายเชื่อมสนามบินอู่ตะเภา4,508 ล้านบาท
พลเอก คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันที่ 23 ธ.ค. 2565 พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรียกประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) ผ่านระบบ VTC ณ ห้องประชุมมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ โดยมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมประชุม เพื่อเร่งพิจารณา EIA ขับเคลื่อนแผนงานสำคัญตามนโยบายของรัฐบาล
โดยที่ประชุมพิจารณาและมีมติเห็นชอบ รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) การพัฒนาเสริมความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในเกาะกระเต็น จว.สุราษฎร์ธานี และโครงการสำคัญ ประกอบด้วย โครงการถนนตามผังเมืองกำแพงเพชร โครงการถนนวงแหวนเลี่ยงเมืองหมายเลข 7 ส่วนต่อขยายเชื่อมสนามบินอู่ตะเภา โครงการขยายท่าอากาศยานบุรีรัมย์ โครงการอ่างเก็บน้ำแม่บอม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จว.ลำปาง โครงการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติทางบกจากบางปะกงไปยังโรงไฟฟ้าพระนครใต้ โครงการสะพานเชื่อมเกาะลันตา จว.กระบี่ นอกจากนั้น ที่ประชุมยังเห็นชอบ (ร่าง) แผนการจัดระดับชาติ เพื่อการปฏิบัติตามอนุสัญญาสต๊อกโฮล์มว่าด้วยสารมลพิษที่ตกค้างยาวนาน แผนดำเนินงานแก้ปัญหาการปนเปื้อนสารตะกั่วบริเวณห้วยคลิตี้ ปี 2565-2568 และ (ร่าง) แผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ปี 2566
พลเอก ประวิตร กล่าวขอบคุณ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ที่เร่งจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ปัญหา PM 2.5 โดยขอให้ ทส.เร่งรัดขับเคลื่อนการปฏิบัติตามแผนให้เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะห้วงเวลาวิกฤตคุณภาพอากาศ พร้อมย้ำ ขอให้คณะกรรมการ ให้ความสำคัญร่วมกันเร่งพิจารณาโครงการสำคัญตามนโยบายของรัฐบาลที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจ ความมั่นคงพลังงาน และการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งประเทศ โดยขอให้พิจารณารอบคอบตามมาตรการหรือหลักเกณฑ์ที่กำหนด ทั้งนี้ขอให้หน่วยงานเจ้าของโครงการ ที่ผ่านความเห็นชอบ ต้องดำเนินตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัด และให้นำเสนอ ครม.ตามขั้นตอน
รายงานข่าวแจ้งว่า โครงการสะพานเชื่อมเกาะลันตา ต.เกาะกลาง-ต.เกาะลันตาน้อย อ.เกาะลันตา จังหวัดกระบี่ วงเงิน 1,854 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการ เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2565 โดยใช้เงินกู้ และงบสมทบจากงบประมาณประจำปีดำเนินการ โดยจะเร่งประกวดราคา และลงนามสัญญากับผู้รับจ้างในเดือน ก.ย. 2566 มีระยะเวลาการก่อสร้าง 3 ปี (พ.ศ. 2566-พ.ศ. 2568)
สำหรับ โครงการถนนวงแหวนเลี่ยงเมืองหมายเลข 7 ส่วนต่อขยายเชื่อมสนามบินอู่ตะเภา ระยะทางรวม 1.92 กิโลเมตร วงเงินรวม 4,508 ล้านบาท อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง (ทล.) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการ เมื่อวันที่วันที่ 14 มิ.ย. 2565โดยให้กระทรวงการคลังจัดหาเงินกู้สำหรับค่าก่อสร้างและค่าควบคุมงานตามแผนบริหารหนี้สาธารณะ และให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณสำหรับค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินวงเงิน 108 ล้านบาท คาดว่าเปิดให้บริการในปี 2568 รองรับการจราจรที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตบริเวณสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก
