xs
xsm
sm
md
lg

การแพทย์-ความงามดาวรุ่งปี 66 สิ่งพิมพ์-เสื้อโหล-คริปโตดาวร่วง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ม.หอการค้าไทย ส่องเทรนด์ธุรกิจดาวรุ่งปี 66 พบการแพทย์ ความงาม อันดับ 1 หลังคนดูแลสุขภาพ ความงาม และเข้าสู่สังคมสูงวัย ส่วนอันดับอื่นๆ เป็นไปตามพฤติกรรมผู้บริโภค ที่หันมาออนไลน์มากขึ้น ทั้งอี-คอมเมิร์ซ, ออนไลน์ เอนเตอร์เนเมนต์, ยูทูบเบอร์-อินลูเอนเซอร์-รีวิวสินค้า รวมถึงแพลตฟอร์มแมชชิ่ง อย่างจับคู่ เรียกรถ ส่วนธุรกิจดาวงร่วงเหมือนเดิม ทั้งฟอกย้อม สิ่งพิมพ์ เสื้อผ้าโหล รวมถึงคริบโต

นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้อำนวยการสถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้จัดอันดับ 10 ธุรกิจดาวรุ่ง-ดาวร่วง ปี 66 โดยพิจารณาจากปัจจัย 5 ด้านคือ ยอดขาย, ต้นทุน, กำไรสุทธิ, ผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงและภาวะแข่งขัน และความต้องการ/สอดคล้องกับกระแสนิยม ซึ่งพบว่า ธุรกิจดาวเด่นอันดับ 1 ได้แก่ การแพทย์และความงาม จากการเติบโตของสังคมผู้สุงอายุ การต้องการความสวยงาม การดูแลสุขภาพ การเปิดประเทศทำให้ชาวต่างชาติกลับมาใช้บริการมากขึ้น

ส่วนอันดับ 2 ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ เพราะผู้บริโภคปรับพฤตกรรมมาซื้อของผ่านออนไลน์มากขึ้น, อันดับ 3 ธุรกิจโซเชียล มีเดีย, ออนไลน์ เอนเตอร์เทนเมนต์, ธุรกิจฟินเทค และกาชำระเงินฝากระบบเทคโนโลยี รวมถึงธุรกิจงานคอนเสิร์ต มหกรรมจัดงานแสดงสินค้า และงานอีเวนต์ต่างๆ เพราะประชาชนชมภาพยนตร์และรายการต่างๆ ทางออนไลน์มากขึ้น บริษัทห้างร้านโปรโมตสินค้าผ่านออนไลน์ โดยใช้อินฟลูเอนเซอร์ ประชาชนมีพฤติกรรมใช้เงินดิจิทัลมากขึ้น รวมถึงโควิดคลี่คลาย

อันดับ 4 ธุรกิจจัดทำคอนเทนต์ ธุรกิจ Youtuber การรีวิวสินค้า และอินฟลูเอนเซอร์ รวมถึงธุรกิจโฆษณาและสื่อออนไลน์ ตามการเสพสื่อออนไลน์ของคนยุคใหม่ที่มีมากขึ้น, อันดับ 5 ธุรกิจแพลตฟอร์ม และธุรกิจแมชชิ่ง เช่น หาคู่ สั่งอาหาร เรียกรถ ตามการพัฒนาของแพลตฟอร์มรองรับความต้องการผู้บริโภค, อันดับ 6 ธุรกิจประกันชีวิต ประกันภัย จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่รักสุขภาพมากขึ้น และเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย รวมถึงธุรกิจบันเทิงยามค่ำคืน ผับ บาร์ คาราโอเกะ หลังรัฐบาลเปิดประเทศเต็มรูปแบบ และภาครัฐกระตุ้นการท่องเที่ยว

อันดับ 7 ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ทัวร์ และธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงธุรกิจร้านค้าปลีกสมัยใหม่ หลังรัฐบาลเปิดประเทศเต็มรูปแบบ และส่งเสริมการท่องเที่ยว, อันดับ 8 ธุรกิจโลจิสติกส์ ดีลิเวอรี่ คลังสินค้า ตามการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้น และธุรกิจตู้หยอดเหรียญ เช่น น้ำ เครื่องซักผ้า อาหาร ฯลฯ ตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกมากขึ้น

อันดับ 9 ธุรกิจอาหารเสริม ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (ไม่มีแอลกอฮอล์) เช่น น้ำผลไม้ น้ำผสมวิตามิน เครื่องดื่มสูตรหวานน้อย ตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น และเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย และอันดับ 10 ธุรกิจยานยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า, ธุรกิจบันเทิง เช่น ละคร หนัง ซีรีส์วาย, ธุรกิจเกี่ยวกับกัญชาและใบกระท่อม จากนโยบายกัญชาเสรี

“ปี 66 มีธุรกิจใหม่เข้ามาติดโผ เช่น ธุรกิจทำคอนเทนต์ ยูทูบเบอร์ รีวิวสินค้า อินฟลูเอนเซอร์, ธุรกิจโฆษณาและสื่อออนไลน์, ธุรกิจแมชชิ่ง อย่างหาคู่, โซเชียล มีเดียและออนไลน์ เอนเตอร์เทนเมนต์, ธุรกิจความเชื่อ (สายมู หมอดู ฮวงจุ้ย), ธุรกิจบันเทิง เช่น ซีรีวายส์และอุปกรณ์, เป็นต้น ส่วนธุรกิจดาวรุ่งปี 65 ที่หลุดโผปี 66 เช่น ธุรกิจขายตรง, แปรรูปยาง เช่น ถุงมือยาง ถุงยาง, อาหารสำเร็จรูป, อาหารสัตว์, อิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน”

สำหรับธุรกิจดาวร่วงปี 66 ยังคงเป็นธุรกิจเดิม ได้แก่ ธุรกิจฟอกย้อม, ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ สารสาร หนังสือพิมพ์กระดาษ, ธุรกิจรับส่งสื่อสิ่งพิมพ์ตามบ้าน, ธุรกิจโรงพิมพ์ การพิมพ์, ธุรกิจคนกลาง, ธุรกิจร้านขายหนังสือ, ธุรกิจเครื่องปั้นดินเผา และเซรามิก, ธุรกิจร้านถ่ายรูป, ธุรกิจหัตถกรรม, ธุรกิจผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปไร้ฝีมือ (เสื้อผ้าโหล), ธุรกิจคริปโต, ธุรกิจโรงเรียนเอกชน และร้านโชห่วย


กำลังโหลดความคิดเห็น