กรมการค้าภายในกางแผนดูแลสินค้าปี 66 แย้มขอความร่วมมือผู้ผลิตตรึงราคาต่อ และจะบังคับใช้กฎหมายเข้มข้น ทั้งปิดป้าย จัดการพวกขายแพง หรือเข้มสุดขึ้นบัญชีควบคุม หากปั่นป่วน ผันผวน ส่วนพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน จะทำต่อตามความเหมาะสม เผยล่าสุดสินค้าปรับลดราคาต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มอาหารสด สินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องใช้ไฟฟ้า ผักสด ส่วนสินค้าเกษตรสำคัญ ทั้งมัน ข้าวโพด ปาล์ม ราคาขึ้นต่อเนื่อง
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า แนวทางการดูแลราคาสินค้าในปี 2566 กรมฯ ยังจะเน้นขอความร่วมมือให้ผู้ผลิตให้ช่วยตรึงราคาสินค้าต่อไป เพื่อดูแลผู้บริโภคในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว และเชื่อว่าผู้ประกอบการจะบริหารจัดการต้นทุนได้ เพราะต้นทุนสินค้าหลายๆ ตัวพ้นช่วงพีกมาแล้ว และหากสินค้ายังคงราคาไว้ได้ก็จะยิ่งช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย และผู้ประกอบการก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้น ส่วนการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ จะยังมีโครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน ที่จะดำเนินการต่อ แต่จะจัดเป็นช่วงๆ ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการค้าขายปกติ และจะเน้นพื้นที่จำเป็น ในช่วงสถานการณ์ที่จำเป็น
ทั้งนี้ กรมฯ จะพิจารณานำมาตรการทางกฎหมายมาใช้อย่างเข้มข้น ทั้งการตรวจสอบการปิดป้ายแสดงราคา การตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าแพง เพื่อดูแลผู้บริโภคให้ได้รับความเป็นธรรม และหากสินค้ารายการใดมีปัญหาด้านราคา หรือเกิดความผันผวน ก็จะใช้มาตรการเด็ดขาด เช่น การเสนอให้เป็นสินค้าควบคุม เพื่อที่จะสามารถบริหารจัดการได้อย่างเหมาะสม แต่จะยึดหลัก 3 ฝ่ายอยู่ได้ ทั้งเกษตรกร ผู้ผลิต และผู้บริโภค
นายวัฒนศักย์กล่าวว่า สำหรับการติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าล่าสุด พบว่าหลายกลุ่มมีราคาปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยหมูเนื้อแดง ราคาเฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 180-190 บาท ส่วนในห้างมีการจัดโปรโมชัน เช่น แม็คโคร บิ๊กซี ราคาอยู่ที่ กก.ละ 165 บาท เนื้อไก่ ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ กก.ละ 80-90 บาท ในตลาดสดเฉลี่ยอยู่ที่ กก.ละ 74-87 บาท อกไก่ กก.ละ 79 บาท และน้ำมันปาล์มราคาขวดลิตรละ 47-50 บาท น้ำมันถั่วเหลือง 55-68 บาท ขณะที่ข้าวหอมมะลิ ข้าวขาว ราคาทรงตัว แต่เริ่มปรับลดลง ปลากระป๋อง น้ำปลา ซีอิ๊ว ราคาทรงตัว แต่ห้างมีการจัดโปรโมชันลดราคาต่อเนื่อง
ส่วนสินค้าอุปโภคบริโภค ผลิตภัณฑ์ซักล้าง ชำระล้าง ราคาทรงตัว โดยห้างมีการจัดโปรโมชันลดราคาสลับกันไปในแต่ละสินค้า และเครื่องใช้ไฟฟ้า ราคาปรับลดลงต่อเนื่อง จากการที่ห้างจัดโปรโมชัน ส่วนผักสด ราคาปรับลดลงชัดเจน เช่น ผักคะน้า ถั่วฝักยาว กะหล่ำปลี แต่บางชนิดราคาปรับขึ้นบ้าง เช่น ต้นหอม แต่ราคายังถูกกว่าเดือนที่แล้ว และผักชี ราคาเริ่มปรับลดลงแล้ว
ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรสำคัญ เช่น มันสำปะหลัง ราคา กก.ละ 2.85-3.30 บาท สูงกว่าเดือนก่อนเฉลี่ย กก.ละ 3.08 บาท ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กก.ละ 12-12.10 บาท สูงกว่าเดือนก่อน กก.ละ 11-12 บาท น้ำมันปาล์ม กก.ละ 5.80-6.70 บาท สูงกว่าเดือนก่อนเฉลี่ย 6.21 บาท โดยเชื่อว่าราคายังมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อไป ส่วนราคาปุ๋ยเคมี ซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญในการเพาะปลูกสินค้าเกษตร พบว่าขณะนี้ราคาเริ่มทรงตัวและปรับตัวลดลง แต่ยังต้องจับตาราคาก๊าซธรรมชาติว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะเป็นต้นทุนสำคัญในการผลิตปุ๋ยเคมี
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือน ธ.ค. 2565 กรมฯ ยังจะเดินหน้าจัดโครงการพาณิชย์ลดราคา Lot 20 และ Lot 21 อย่างต่อเนื่อง ทั้งการจำหน่ายผ่านรถโมบายล์ และการเปิดจุดจำหน่ายสินค้าราคาถูก โดยนำสินค้าจำเป็นต่อการครองชีพ ทั้งข้าวสาร เนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ น้ำตาลทราย น้ำมันพืช ไปจำหน่ายแก่ประชาชน โดยสามารถตรวจสอบจุดจำหน่ายได้ทางเว็บไซต์ www.dit.go.th และแอปพลิเคชัน Line @mobilepanich