กนอ.จับมือกรมโรงงานฯ กรมศุลกากร, เวสท์ แมนเนจเม้นท์ สยาม และบริษัท บางปู เอนไวรอนเมนทอลฯ เผาทำลายสารทำความเย็นที่จับกุมได้จากการลักลอบนำเข้าประเทศกว่า 10,000 ถัง สอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศ เพื่อเดินหน้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ.ได้รับการประสานจากกรมศุลกากร ผ่านกรมโรงงานอุตสาหกรรม ตั้งแต่ปี 2558 เพื่อขอความอนุเคราะห์ใช้เตาเผาซึ่งอยู่ในการกำกับดูแลของ กนอ. โดยเป็นเตาเผาระบบฟลูอิดไดซ์เบด (Fluidized Bed) ที่ กนอ.ได้รับความช่วยเหลือด้านเครื่องจักรและอุปกรณ์เตาเผาพร้อมระบบผลิตไอน้ำภายใต้โครงการอนุรักษ์พลังงานและพิทักษ์สิ่งแวดล้อมจากองค์กรพัฒนาพลังงานใหม่และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม หรือ NEDO แห่งประเทศญี่ปุ่น และบริหารโดยบริษัท เวสท์ แมนเนจเม้นท์ สยาม จำกัด ภายใต้ชื่อ โครงการบางปู เอนไวรอนเมนทอล คอมเพล็กซ์ หรือ BPEC เพื่อเผาทำลายสารทำความเย็นที่กรมศุลกากรจับกุมได้ ซึ่งมีปริมาณมากกว่า 10,000 ถัง ซึ่ง กนอ.ได้อนุญาตให้บริษัทฯ เผาสารทำความเย็นดังกล่าวภายใต้เงื่อนไขที่ต้องควบคุมประสิทธิภาพในการเผาทำลายให้ไม่น้อยกว่า 99.99% ทั้งนี้ บริษัท โดวะ อีโค่ ซิสเต็มส์ จำกัด และ บริษัท เวสท์ แมเนจเม้นท์ สยาม จำกัด ได้พัฒนาต่อยอดและถ่ายทอดเทคโนโลยีที่มีมาตรฐานจากประเทศญี่ปุ่นมาดำเนินการที่ประเทศไทยจนประสบผลสำเร็จ
“การเผาทำลายสารทำความเย็นที่ผ่านมาทั้งหมดจนถึงครั้งนี้รวมประมาณ 147 ตัน ซึ่งในการเผาเมื่อ 30 พ.ย. เพียงวันเดียวช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้แล้วกว่า 1.2 ล้านตันคาร์บอน เกินครึ่งของเป้าหมายปี 2566 ที่ต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 2 ล้านตันคาร์บอน ทั้งๆ ที่ยังไม่ผ่านไตรมาส 1 ด้วยซ้ำ ถือเป็นความร่วมมือที่สำคัญมากและต่างชาติก็ให้ความชื่นชมว่าเป็นครั้งแรกของโลก เพราะยังมีเพียงไม่กี่ที่ทั่วโลก เช่น ไทย สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และอาจจะมีประเทศญี่ปุ่นด้วย ที่สำคัญสอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศไทยในการก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutrality) เพื่อนำไปสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในที่สุด” นายวีริศกล่าว
นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2558 มีการทดลองเผาสารทำความเย็นด้วยการควบคุมประสิทธิภาพในการเผาทำลายให้ไม่น้อยกว่า 99.99% ซึ่งในที่สุดการกำจัดสารทำความเย็นอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมก็เกิดขึ้นจริงแล้ว โดยที่บริษัทฯ สามารถรับสารทำความเย็นที่คงค้างทั้งหมดของกรมศุลกากรจำนวนมากกว่า 10,000 ถัง มาเผาทำลายที่เตาเผาครั้งนี้ สามารถลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ก่อให้เกิดสภาวะโลกร้อนได้มากกว่า 1.2 ล้านตันคาร์บอน
นายถวัลย์ รอดจิตต์ ผู้อำนวยการกองสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร กล่าวว่า สารฟลูออโรคาร์บอนที่จับกุมได้จากการลักลอบนำเข้าอย่างผิดกฎหมายอยู่จำนวนมากกว่า 130 ตัน หรือมากกว่าหมื่นถัง ซึ่งการทำลายสารทำความเย็นนี้ต้องดำเนินการอย่างถูกวิธี คาดการณ์ว่าจะใช้เวลาดำเนินการเผาทำลายสารทำความเย็นทั้งหมดประมาณ 18 เดือน
นายยาซุฮารุ ยะใน ประธานกรรมการ บ.โดวะ อีโคซิสเต็ม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ บริษัท เวสท์ แมเนจเม้นท์ สยาม จำกัด และ บริษัทบางปู เอนไวรอนเมนทอล คอมเพล็กซ์ จำกัด กล่าวว่า เราจะรับผิดชอบจัดหาวัสดุและชิ้นส่วนเพื่อเพิ่มประสิทธิผลของการประหยัดพลังงาน และพัฒนาเทคโนโลยีในการทำลายสารทำความเย็น Freon ในเอเชีย เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายของการพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อนำไปสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ หรือ net zero emission โดยเตาเผาฟลูอิดไดซ์เบดสามารถเผาของแข็งได้ประมาณ 150 ตันต่อวัน และเผาของเหลวได้ประมาณ 123 ตันต่อวัน