xs
xsm
sm
md
lg

“บ้านปู” ยื่นไฟลิ่งเสนอขายหุ้นไอพีโอ “BKV” ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“บ้านปู” เดินหน้านำบริษัทย่อย BKV ที่ดำเนินธุรกิจผลิตก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ ยื่นไฟลิ่งเพื่อระดมทุนเสนอขายหุ้น IPO ในตลาดหุ้น NYSE คาดว่าการเสนอขายหุ้นดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ภายในปี 2566

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จํากัด (มหาชน) (BANPU) เปิดเผยว่า BKV Corporation (“BKV”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์รวมถึงร่างหนังสือชี้ชวน (Public Filing) ต่อ U.S. Securities and Exchange Commission เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 9/2565 เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2565 โดยที่ประชุมได้มีมติอนุมัติแผนการเสนอขายหุ้น IPO และการนำหุ้นสามัญของ BKV เข้าจดทะเบียนใน New York Stock Exchange (NYSE) โดยบริษัทฯ จะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้มีอำนาจของ BKV และ BKV จะยังคงเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ณ วันที่การทำ IPO เสร็จสมบูรณ์

รายการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อสัดส่วนการถือครองหุ้นทางอ้อมของบริษัทฯ ใน BKV การดำเนินการตามแผนการทำ IPO ข้างต้นจึงเข้าข่ายเป็นรายการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ.20/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สินและประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเรื่องการเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน พ.ศ. 2547 โดยขนาดรายการของรายการดังกล่าว ซึ่งคำนวณจากงบการเงินรวมสอบทานแล้วของบริษัทฯ สำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2565 และงวดเก้าเเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565 ตามเกณฑ์ มูลค่าสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิซึ่งเป็นเกณฑ์ได้ผลลัพธ์สูงสุดเท่ากับร้อยละ 7.27 และ 5.28 ตามลำดับ


ผลประโยชน์ที่บริษัทคาดว่าจะได้รับจากกการดำเนินการตามแผนการทำ IPO เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธข์องบริษัทฯ ในการขยายธุรกิจและสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจของ BKV จากการเข้าสู่ตลาดทุนและขับเคลื่อนสู่เป้าหมายในการดำเนินธุรกิจผลิตก๊าซธรรมชาติซึ่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2568 นอกจากนี้ บริษัทฯ คาดว่าการเข้าทำรายการดังกล่าวจะทำให้บริษัทได้ประโยชน์ดังนี้ คือ

1. BKV จะสามารถระดมทุนได้เองผ่านการทำ IPO และอาจระดมทุนเพิ่มเติมจากตลาดทุนในอนาคต

2. ราคาหุ้นของบริษัทฯ อาจสะท้อนมูลค่าของเงินลงทุนใน BKV ได้มากขึ้น เนื่องจากมีราคาตลาดอ้างอิงสำหรับหุ้นใน BKV

3. หุ้นใน BKV จะมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นภายหลังการเข้าจดทะเบียนใน New York Stock Exchange ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทฯ ในการขาย หรือนำหุ้นใน BKV ที่บริษัทถือไปชำระค่าตอบแทนในการซื้อหรือควบรวมกิจการอื่นใดของบริษัทในอนาคต

4. การดําเนินการตามแผนการทํา IPO เป็นการสร้างเกียรติภูมิและชื่อเสียงที่ดีให้แก่บริษัทฯ ในฐานะที่เป็นบริษัทไทยที่มีบริษัทย่อยเป็นบริษัทจดทะเบียนใน New York Stock Exchange

ทั้งนี้ BKV มีแผนการใช้เงินจากการเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ภายใต้แผนการทำ IPO เพื่อชำระหนี้ตามสัญญายืมเงินจำนวน 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่บริษัท Banpu North America Corporation ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ นอกจากนี้ เพื่อใช้เป็นค่าตอบแทนตามผลการดำเนินงาน (Contingent Payment หรือ Earnout) จากการเข้าลงทุนซื้อแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์จาก Devon Energy Corp. และเพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจทั่วไป (General Corporate Purposes) รวมทั้งค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการขยายกิจการดักจับการใช้ประโยชน์และการกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture, Utilization and Sequestration หรือ CCUS)

ทั้งนี้ BKV จะเริ่มเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ภายใต้แผนการทำ IPO ภายหลังจากที่ U.S. Securities and Exchange Commission ได้ประกาศว่าแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์มีผลบังคับใช้แล้ว ทั้งนี้บริษัทคาดว่าการเสนอขายหุ้นดังกล่าวจะเกิดขึ้นภายในปี 2566


กำลังโหลดความคิดเห็น