ทางหลวงชนบทเผยถนนน้ำท่วม 10 สายใน 6 จังหวัดรถผ่านไม่ได้ 3 สายทาง "ชน.3018" อินทร์บุรี จ.ชัยนาทสาย “ชม.3003” อ.จอมทอง, เวียงหนองล่อง จ.เชียงใหม่ และ "กส.3013" อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ติดป้ายแจ้งเตือนประชาชนเตรียมเข้าฟื้นฟูทันทีหลังน้ำลดเพื่อเปิดสัญจร
นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัยบนถนนโครงข่ายทางหลวงชนบททั่วทุกภูมิภาค ณ วันที่ 15 พ.ย. 2565 ว่า มีสายทางที่ได้รับผลกระทบใน 6 จังหวัด รวม 10 สายทาง สามารถสัญจรผ่านได้แล้ว 7 สายทาง และสัญจรผ่านไม่ได้ 3 สายทาง ดังนี้
ถนนทางหลวงชนบทสาย ชน.3018 แยก ทล.311-อินทร์บุรี (ตอนชัยนาท) อำเภออินทร์บุรี จังหวัดชัยนาท ช่วง กม.ที่ 0+500 ถึง 0+550 น้ำกัดเซาะถนนขาด โดยขณะนี้ได้ดำเนินการปิดช่องทางจราจร พร้อมติดตั้งป้ายทางเลี่ยงให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบแล้ว
ถนนทางหลวงชนบท ชม.3003 แยก ทล.108-บ้านหนองล่อง อำเภอจอมทอง, เวียงหนองล่อง จังหวัดเชียงใหม่, ลำพูน ช่วง กม.ที่ 1+864 ถึง 2+046 ถนนทรุดตัว โดยขณะนี้ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องหมายจราจรและป้ายแนะนำทางเลี่ยงให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบแล้ว
ถนนทางหลวงชนบทสาย กส.3013 แยก ทล.214-บ้านสีถาน อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ ช่วง กม.ที่ 1+450 ถึง 1+980 ระดับน้ำ 40 เซนติเมตร
สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่น้ำท่วมสูงเวลานี้ ได้มอบหมายให้สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 16 (กาฬสินธุ์) แขวงทางหลวงชนบทกาฬสินธุ์ ลงพื้นที่รับมือสถานการณ์ในเบื้องต้น โดยติดตั้งป้ายเตือนและอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย ทั้งจัดชุดเคลื่อนที่เร็วออกตรวจสายทางจนกว่าปริมาณน้ำจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และเมื่อระดับน้ำลดลงแล้ว ได้กำชับหน่วยงานในพื้นที่เร่งดำเนินการสำรวจ ออกแบบ และประมาณการราคา เพื่อเสนอแผนพัฒนาและฟื้นฟูต่อไป ตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
สำหรับในบางพื้นที่ที่ระดับน้ำได้ลดลงเข้าสู่ภาวะปกติเรียบร้อยแล้ว กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่จัดการเส้นทางหลังน้ำลดทันที โดยทำการขนย้ายกระสอบทราย คันดินกั้นน้ำและเศษวัสดุบนผิวทาง พร้อมเร่งทำการซ่อมแซมผิวจราจรที่ชำรุด เพื่อเร่งคืนผิวจราจรให้ประชาชนสามารถกลับมาสัญจรได้ทุกเส้นทางต่อไป