กรมทางหลวงชนบทซ่อมถนนสาย กส.4073 (พนังกั้นน้ำชี) จ.กาฬสินธุ์ เปิดให้ประชาชนใช้สัญจรผ่านได้ชั่วคราวแล้ว พร้อมเฝ้าระวังมวลน้ำจากลำน้ำชี เตรียมเสริมกระสอบทรายหากระดับน้ำสูง
นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์มวลน้ำจากลำน้ำชีได้ไหลเข้ากัดเซาะถนนทางหลวงชนบทสาย กส.4073 (พนังกั้นน้ำชี) ได้รับความเสียหาย ตั้งแต่แยก ทล.2467-บ้านสีถาน อำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมวลน้ำได้กัดเซาะถนนขาดทรุดตัว ความยาว 50 เมตร บริเวณ กม.ที่ 6+600 ทำให้ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2565 นั้น ทช. โดยสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 16 (กาฬสินธุ์) โดยแขวงทางหลวงชนบทกาฬสินธุ์ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมทางหลวง กรมชลประทาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เป็นต้น ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อกู้สถานการณ์ โดยร่วมกันดำเนินการซ่อมแซมถนนสาย กส.4073 (พนังกั้นน้ำชี) ขณะนี้ประชาชนสามารถใช้สัญจรผ่านได้ชั่วคราวแล้ว
ทั้งนี้ ทช.ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรหนักเข้าพื้นที่ดำเนินการซ่อมแซมถนนสาย กส.4073 (พนังกั้นน้ำชี) ด้วยวิธีการนำแท่งปูนปักลงบริเวณที่ถูกกระแสน้ำกัดเซาะและวางกล่องลวดบรรจุหินใหญ่ (Gabion Box) เพื่อปิดถนนบริเวณที่ขาด ป้องกันไม่ให้มวลน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ภายในอำเภอฆ้องชัย และอำเภอกมลาไสย
สำหรับการซ่อมแซมครั้งนี้เป็นการชั่วคราวเพื่อให้ประชาชนใช้สัญจรผ่านได้แล้ว ทั้งนี้ แขวงทางหลวงชนบทกาฬสินธุ์ได้เฝ้าระวังโดยสังเกตระดับน้ำ หากระดับน้ำเริ่มมีปริมาณสูงจะดำเนินการวางกระสอบทรายเพื่อเสริมขอบทางให้สูงขึ้น และจะระดมกำลังสูบน้ำออกจากถนนเพื่อป้องกันมวลน้ำไม่ให้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนต่อไป
จากกรณีที่พายุโนรูได้พัดผ่านประเทศไทยทำให้เกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ รัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยได้มอบหมายให้ ทช.เร่งบรรเทาความเดือดร้อนและให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วนและทันต่อสถานการณ์ ดังนั้น ทช.จึงบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กู้สถานการณ์น้ำท่วมในทุกสายทางของ ทช.เพื่อเปิดให้ประชาชนได้ใช้สัญจรเป็นการชั่วคราวก่อน รวมทั้งได้ติดตั้งป้ายบอกทาง ป้ายเตือน และอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย เพื่ออำนวยความสะดวกปลอดภัยให้แก่ประชาชน
ทช.พร้อมให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกปลอดภัยให้แก่ประชาชน หากต้องการแจ้งเหตุถนนหรือสะพานที่ได้รับความเสียหาย รวมถึงต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่แขวงทางหลวงชนบททุกจังหวัด หรือโทร.สายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146 เพื่อแจ้งขอรับความช่วยเหลือต่อไป
