“จุรินทร์”ดึง “ท็อปส์” เซ็นสัญญาซื้อขายส้มโอทับทิมสยามปากพนังล่วงหน้า

“จุรินทร์”เป็นสักขีพยานเซ็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ดึง “ท็อปส์” ซื้อตรงจากเกษตรกร 1 แสนกิโลกรัม ให้ราคาสูงกว่าตลาดอีกลูกละ 60 บาท พร้อมมอบกรมทรัพย์สินทางปัญญาเดินหน้าขึ้นทะเบียน GI ที่จีน และมอบกล่องให้เกษตรกรผู้ปลูก “มังคุดเขาคีรีวง” เพื่อช่วยลดต้นทุนขายออฟไลน์และออนไลน์

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นสักขีพยานการเซ็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินค้า GI “ส้มโอทับทิมสยามปากพนัง” และมอบบรรจุภัณฑ์สินค้า GI “มังคุดเขาคีรีวง” ที่วิสาหกิจชุมชนเทศบาลตำบลเกาะทวด อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ว่า วันนี้เป็นตัวอย่างที่ทำให้เห็นว่ากระทรวงพาณิชย์ได้นำผู้ซื้อมาพบกับผู้ผลิต ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ให้มีหลักประกันว่ารับซื้อไม่ต่ำกว่ากี่ตันและราคาไม่ต่ำกว่าเท่าไร เพื่อเป็นหลักประกันให้เกษตรกรผู้ปลูกส้มโอทับทิมสยามปากพนัง โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาพาท็อปส์ มาร์เก็ต มาซื้อส้มโอทับทิมสยามปากพนัง อย่างน้อย 100,000 กิโลกรัม ช่วยให้ปีนี้มีหลักประกัน มีตลาดขายได้อย่างแน่นอนอย่างน้อย 100,000 กิโลกรัม ช่วยดึงราคาให้สูงขึ้น และจะซื้อสูงกว่าราคาตลาดปกติประมาณ 60 บาทต่อลูก

ทั้งนี้ ผลจากที่กระทรวงพาณิชย์ได้เข้ามาช่วยพี่น้องเกษตรกรขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ให้กับส้มโอทับทิมสยามปากพนัง ได้ช่วยให้ราคาส้มโอแพงขึ้นเป็นเท่าตัว โดยสมัยก่อนส้มโอทับทิมสยาม ไม่เป็น GI ลูกละ 150 บาท เป็น GI แล้ว ลูกละ 500 บาท เป็นสิ่งที่ได้ทำให้กับพี่น้องและปัจจุบันสามารถโพสต์ขายส้มโอทับทิมสยามออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ Shopee และ Lazada รวมทั้งไม่ได้ขายแต่ในประเทศเท่านั้น ยังขายไปต่างประเทศ เช่น สปป.ลาว ฮ่องกง และไต้หวัน ปีละกว่า 10 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ได้มอบหมายเป็นนโยบายให้กับกรมทรัพย์สินทางปัญญา นอกจากจดทะเบียน GI ส้มโอทับทิมสยามปากพนังในประเทศไทยแล้ว ให้ไปช่วยจดทะเบียน GI ในตลาดใหญ่ที่สุดในโลกของส้มโอ คือ ที่ประเทศจีนด้วย

สำหรับมังคุดเขาคีรีวง ได้รับการจดทะเบียนเป็น GI เมื่อปีที่แล้ว ขอแสดงความยินดีด้วย เพราะทำให้ราคาสูงขึ้นโดยอัตโนมัติ และวันนี้กระทรวงพาณิชย์ได้นำกล่องมาให้จำนวน 5,000 กล่อง ใส่ได้กล่องละ 5 กิโลกรัม (กก.) เพื่อช่วยลดต้นทุนให้กับเกษตรกรในการขายออฟไลน์และออนไลน์

รายงานข่าวจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา แจ้งว่า ส้มโอทับทิมสยามปากพนังเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ด้วยรสชาติหวานนุ่ม และเนื้อสีชมพูเข้มคล้ายสีทับทิมที่เป็นเอกลักษณ์ สร้างรายได้แก่เกษตรกรผู้ปลูกส้มโอในพื้นที่อำเภอปากพนังกว่า 700 ครัวเรือน และสร้างมูลค่าการตลาดกว่า 238 ล้านบาทต่อปี

โดยการจัดงานครั้งนี้ มี พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน นางกนกพร เดชเดโช นายกอบจ.นครศรีธรรมราช นายสมพงษ์ มากมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายชัยรัตน์ เพชรดากูล ผู้บริหารท็อปส์ ธุรกิจกลุ่มฟู้ดในเครือเซ็นทรัล รีเทล นายประกอบ รัตนพันธุ์ ส.ส.จังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ วิสาหกิจชุมชนเทศบาลตําบลเกาะทวด กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมชุมชนคีรีวง และผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เข้าร่วม