บริษัทตั้งใหม่เดือน ก.ย. 65 มีจำนวน 7,219 ราย เพิ่ม 24% เหตุเศรษฐกิจฟื้นตัว คนมั่นใจลงทุนทำธุรกิจเพิ่มขึ้น ส่วนยอดเลิก 1,946 ราย เพิ่ม 29% รวม 9 เดือนตั้งใหม่ 60,796 ราย เลิก 11,439 ราย คาดทั้งปี 68,000-72,000 ราย
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า การจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือน ก.ย. 2565 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศจำนวน 7,219 ราย เทียบกับ ส.ค. 2565 ลดลง 3% และเทียบกับ ก.ย. 2564 เพิ่มขึ้น 24% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 19,827.45 ล้านบาท และประเภทธุรกิจที่จัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร ที่ติดอันดับ 3 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการเปิดประเทศ
ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการมีจำนวน 1,946 ราย เมื่อเทียบกับ ส.ค. 2565 เพิ่มขึ้น 0.3% เทียบกับ ก.ย. 2564 เพิ่มขึ้น 29% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนเลิกจำนวน 10,081.49 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร
ทั้งนี้ ยอดรวมการจดทะเบียนตั้งใหม่ 9 เดือนปี 2565 (ม.ค.-ก.ย.) มีจำนวน 60,796 ราย มีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 353,937 ล้านบาท และยอดเลิกกิจการ รวม 11,439 ราย มีมูลค่าทุนจดทะเบียน จำนวน 88,245.48 ล้านบาท
นายทศพลกล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในการจัดตั้งบริษัทใหม่เพิ่มขึ้นมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวและบริการ จากการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด-19 ทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาไทยเดือน ก.ย. 2565 สูงถึง 1.3 ล้านคน และส่งผลดีต่อธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง รวมทั้งมีการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้คนมองเห็นโอกาสในการทำธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ 3 ปีย้อนหลัง (ปี 2562-2564) พบว่าจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่จะมีการจดทะเบียนสูงสุดในช่วงไตรมาสแรก และลดลงในไตรมาสที่ 2 ก่อนที่จะเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 3 และลดลงอีกครั้งในช่วงไตรมาสที่ 4 ทำให้กรมฯ คาดการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ตลอดทั้งปี 2565 อยู่ที่ประมาณ 68,000-72,000 ราย
ปัจจุบันมีธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น (ณ วันที่ 30 ก.ย. 2565) จำนวน 846,954 ราย มูลค่าทุน 20.46 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 201,040 ราย คิดเป็น 23.74% บริษัทจำกัด จำนวน 644,543 ราย คิดเป็น 76.10% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,371 ราย คิดเป็น 0.16% ตามลำดับ