xs
xsm
sm
md
lg

เอสจีเอสรุกขยายธุรกิจต่อเนื่อง ปรับแนวทางสู่ตลาดออฟไลน์-ออนไลน์ สนับสนุนการฟื้นตัวอุตสาหกรรมในประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กลุ่มบริษัทเอสจีเอส องค์กรชั้นนำของโลกที่ดำเนินธุรกิจทางด้านการตรวจสอบ การทดสอบ และการรับรองระบบ มากว่า 100 ปี และดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมากว่า 70 ปี ขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวอุตสาหกรรมในประเทศ ทั้งการพัฒนาและเพิ่มศักยภาพห้องแล็บของบริษัทฯ การพัฒนา Knowledge Solutions ใหม่ๆ เช่น ด้าน IT และ International Regulation ใหม่ๆ การขยายบริการที่สนับสนุนลูกค้าเกี่ยวกับบริการด้าน Sustainability เพื่อสนับสนุนลูกค้าที่ต้องการพัฒนาสู่ธุรกิจที่ยั่งยืน ฯลฯ พร้อมเดินสู่เป้าหมาย “Our Ambitions 2023 and beyond”
นางปราณี รุ้งมโนชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสจีเอส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “เอสจีเอสดำเนินธุรกิจทั่วโลกเป็นระยะเวลา 144 ปี และการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมากกว่า 72 ปี โดยเป็นผู้นำในธุรกิจ TIC (Testing, Inspection, Certification) เอสจีเอสได้รับการยอมรับในระดับ Global Benchmark ด้านคุณภาพและความซื่อสัตย์ เราเป็นเสมือนหุ้นส่วนทางธุรกิจที่ครอบคลุมการให้บริการในทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับ Connectivity & Product, Health & Nutrition, Industrial & Environment และ Natural resources นอกจากนี้ เอสจีเอสยังมีบริการด้าน Business Solutions ได้แก่ Knowledge Solutions, Digital Solutions และ Sustainability Solutions ไม่ว่าลูกค้าต้องการบริการด้านใด ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน หรือไม่ว่าคุณจะอยู่ในภาคส่วนธุรกิจใด ผู้เชี่ยวชาญของเอสจีเอสสามารถนำเสนอ Special Solutions เพื่อให้ลูกค้าเร็วกว่า ง่ายกว่า และมีประสิทธิภาพมากกว่า”


ธุรกิจหลักของบริษัทยังคงความเป็น TIC และขณะเดียวกันก็มีบริการด้าน Consultancy และ Training เอสจีเอสมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาและเพิ่มศักยภาพห้องแล็บของบริษัทฯ ในกรุงเทพฯ ให้เป็น Testing Hub รองรับการบริการวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทดสอบอาหารและสินค้าอื่นในระดับภูมิภาค การขยายกำลังการบริการห้องแล็บทดสอบเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย และสินค้าอุปโภคบริโภค การขยายห้องแล็บจุลชีวะเพื่อทดสอบอาหาร การลงทุนด้านห้องแล็บที่นิคมฯ อมตะซิตี้ ชลบุรี ด้านการทดสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า แอร์ ตู้เย็น อื่นๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวอุตสาหกรรมในประเทศ การพัฒนา Knowledge Solutions ใหม่ๆ เช่น ด้าน IT และ International Regulation ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการขยายบริการที่สนับสนุนลูกค้าเกี่ยวกับบริการด้าน Sustainability เพื่อสนับสนุนลูกค้าที่ต้องการพัฒนาสู่ธุรกิจที่ยั่งยืน


หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เอสจีเอสได้ปรับเปลี่ยนแนวทางบริหารงานสู่การตลาดแบบออฟไลน์และออนไลน์เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว โดยนำเอานวัตกรรมเข้ามาปรับใช้ในการทำงานเพื่อให้งานมีคุณภาพมากขึ้น รวดเร็วขึ้น การพัฒนาแอปพลิเคชันต่างๆ นำมาให้บริการแก่ลูกค้า การปรับปรุงพัฒนาขั้นตอนการปฏิบัติงานภายในองค์กรอย่างต่อเนื่อง โดยนำร่องโครงการ World Class Services (WCS) ที่ห้องแล็บของบริษัทฯ เพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้านคุณภาพ ประสิทธิภาพ ในทุกๆ ด้านจะส่งผลโดยตรงต่อการส่งมอบผลงานที่ความพึงพอใจสูงสุดต่อลูกค้า


“เอสจีเอสเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนของการทำธุรกิจ “Our Ambitions 2023 and beyond” เราเน้นการเจริญเติบโตไปด้วยกัน ครอบคลุมทั้งส่วนรวม (Planet), องค์กร (Performance) และบุคลากร (People) เรากำหนด KPI และวัดความสำเร็จของธุรกิจ เริ่มในปี 2020 เช่น ปริมาณการลดก๊าซ CO2, การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ, การเจริญเติบโตของรายได้และกำไร หรือการสร้างสมดุลของพนักงานตามเพศ อายุ การสนับสนุนกิจกรรมช่วยสังคมโดยความสมัครใจของพนักงาน เป็นต้น ความท้าทายและอุปสรรคที่กระทบธุรกิจการดำเนินงานของบริษัทฯ ล้วนเป็นปัจจัยภายนอก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโรคระบาด ผลกระทบจากภัยธรรมชาติ ซึ่งตลอดช่วงเวลาวิกฤตดังกล่าว เอสจีเอสยังคงสามารถยืนหยัดสร้างผลการดำเนินงานสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ อีกทั้งเรายังสร้างสมประสบการณ์การทำงานในสภาวะฉุกเฉิน การจัดการลดความเสี่ยงต่างๆ ทางธุรกิจ และคาดว่ากลุ่มบริษัท เอสจีเอส จะสามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ในปี 2023 และปี 2030 อย่างแน่นอนเพื่อ Better Governance, Better Society และ Better Planet” นางปราณีกล่าวทิ้งท้าย




กำลังโหลดความคิดเห็น