SCGC ร่วมทุนกับบริษัท Denka ประเทศญี่ปุ่น ตั้งโรงงานในระยองเพื่อผลิตอะเซทิลีนแบล็ก ซึ่งเป็นส่วนประกอบในการผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และสายส่งไฟฟ้าแรงสูง คาดว่าจะตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้ายในต้นปี 2566 และเริ่มผลิตในปี 2568
นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC) เปิดเผยว่า บริษัทเอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) (SCGC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SCC ถือหุ้นทั้งหมด ได้เข้าร่วมลงทุนตามสัญญาร่วมทุนกับบริษัท Denka Company Limited ประเทศญี่ปุ่นเพื่อจัดตั้งบริษัทสำหรับธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายอะเซทิลีนแบล็ก (Acetyleneblack) โดย Denka จะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทร่วมทุนในสัดส่วน 60% และส่วนที่เหลือทาง SCGC ถือหุ้น 40%
โครงการนี้จัดตั้งโรงงานในจังหวัดระยอง มีกำลังการผลิตประมาณ 11,000 ตัน/ปี และคาดว่าจะสามารถเริ่มกระบวนการผลิตได้ภายในต้นปี 2568 ส่วนรายละเอียดการลงทุนจะเป็นไปตามการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้ายของบริษัท คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในต้นปี 2566
นายธนวงษ์ อารีรัชชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGC กล่าวว่า ทั้ง SCGC และ Denka ต่างให้ความสำคัญต่อการดำเนินธุ
ทั้งนี้ Denka เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการผลิตอะเซทิลีนแบล็ก ซึ่งใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เป็นหลัก รวมถึงสามารถนำไปใช้เป็นวัสดุสำหรับผลิตสายส่งไฟฟ้าแรงสูง โดยวัตถุดิบที่ได้จาก SCGC (Ethylene, Acetylene และ Ethane) นั้นจะจัดหาโดยโรงงาน Olefins ของ SCGC ในการผลิตอะเซทิลีนแบล็กของ Denka (DENKA BLACK) ซึ่งเป็นคาร์บอนแบล็กชนิดพิเศษมีคุณสมบัติที่มีความบริสุทธิ์สูง และนำไฟฟ้าได้ดีเยี่ยม
การจัดตั้งบริษัทร่วมทุนนี้จะส่งเสริมให้ SCGC สามารถก้าวเข้าสู่ธุรกิจผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าที่มีแนวโน้มความต้องการของตลาดเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต สอดคล้องกับกลยุทธ์ของ SCGC ในการยกระดับธุรกิจสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (High Value-Added หรือ HVA) และเสริมสร้างการนำเสนอผลิตภัณฑ์ของบริษัทเพื่อรองรับเมกะเทรนด์
การร่วมทุนกับ Denka จะช่วยเน้นย้ำจุดยืนของ SCGC ในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่ได้รับการพิสูจน์ด้วยความสำเร็จมาแล้วหลายทศวรรษกับพันธมิตรระดับโลก ซึ่ง Denka เป็นบริษัทจากประเทศญี่ปุ่นที่มีประวัติยาวนานกว่า 100 ปี โดยมีแผนธุรกิจในระยะกลางที่มุ่งเน้นความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ สิ่งแวดล้อม พลังงาน และสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูงโดยเฉพาะในโครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ที่ให้ความสำคัญด้าน ESG เพื่อมุ่งสู่ ความเป็นกลางทางคาร์บอนตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
ในปี 2564 Denka มีรายได้สุทธิประมาณ 113,000 ล้านบาท กำไรสุทธิประมาณ 7,700 ล้านบาท และสินทรัพย์รวมประมาณ 164,000 ล้านบาท ขณะที่
SCGC เป็นบริษัทผู้นำด้านธุรกิจเคมิคอลส์ในภูมิภาคอาเซียน โดยมีโรงงานอยู่ในประเทศไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม