กนป.ไฟเขียวมาตรการช่วยผลักดันส่งออกน้ำมันปาล์มดิบกิโลกรัมละ 2 บาท มั่นใจช่วยดันราคาในประเทศขยับเพิ่มขึ้นอีก พร้อมอนุมัติโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์ม ปี 4 “จุรินทร์” เตรียมชง ครม.พิจารณา
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้เสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) พิจารณาโครงการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อลดผลผลิตส่วนเกิน โดยช่วยเหลือสนับสนุนการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบให้แก่ผู้ส่งออกกิโลกรัม (กก.) ละ 2 บาท ซึ่งทำอยู่แล้ว แต่ปรับเงื่อนไขให้ช่วยได้ง่ายขึ้น เพื่อแข่งขันในตลาดโลกได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น เพราะถ้าส่งออกได้มากขึ้น แข่งขันได้ดีขึ้น จะมีส่วนช่วยยกระดับราคาปาล์มให้ดีขึ้นอีกระดับหนึ่ง
โดยที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ได้เสนอให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณาปรับสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลในน้ำมันกลุ่มดีเซลหมุนเร็วจาก B5 เป็น B7 ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค.-31 ธ.ค. 2565 ได้มีผลช่วยยกระดับราคาปาล์มระดับหนึ่ง ทำให้ขณะนี้ราคาปาล์มผลปาล์มสดอยู่ที่ กก.ละประมาณ 5.50-6.50 บาท โดยเฉลี่ยทั่วประเทศ ซึ่งถือว่าดีขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมาระดับหนึ่ง
“ก่อนหน้านี้ที่ราคาปาล์มตลาดโลกปรับลดลง เพราะประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ หรือประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ คือ อินโดนีเซียกับมาเลเซีย เร่งการส่งออกในปริมาณที่เยอะมาก และอินโดนีเซียยังงดเก็บภาษีส่งออก ทำให้ปริมาณปาล์มในตลาดโลกเยอะ ทำให้ราคาปรับลดลง กระทบราคาในประเทศของไทย แต่การปรับสัดส่วน B5 เป็น B7 และการช่วยสนับสนุนการส่งออก จะช่วยยกระดับราคาผลปาล์มให้สูงขึ้น” นายจุรินทร์กล่าว
สำหรับโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์ม ปี 4 ได้เสนอให้ที่ประชุม กนป.พิจารณา เพื่อให้ผ่านมติที่ประชุม และจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป โดยจะถือเป็นโครงการปีสุดท้ายของรัฐบาลชุดนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุม กนป. ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบการขยายระยะเวลาดำเนินการตามโครงการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อลดผลผลิตส่วนเกิน ปี 2565 เป้าหมาย 150,000 ตัน โดยขยายระยะเวลาส่งออกเป็นสิ้นสุดเดือนธ.ค. 2565 และขยายระยะเวลาโครงการให้สิ้นสุดเดือน มี.ค. 2566 และเห็นชอบให้ดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 2565-2566 ให้เริ่มจ่ายเงินชดเชยประกันรายได้ งวดที่ 1 แก่เกษตรกรตั้งแต่เดือน ก.ย. 2565 เพื่อให้มีความต่อเนื่องจากโครงการปี 2564-2565
