กรมการค้าภายในถกห้างค้าปลีกค้าส่งรับมือสถานการณ์น้ำท่วม ยันสินค้ามีเพียง การจัดส่งยังทำได้ปกติ ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องกักตุน กำชับห้างเพิ่มปริมาณสต๊อกสินค้าที่คนต้องการซื้อมาก ทั้งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง อาหารสำเร็จรูป น้ำดื่ม และเพิ่มความถี่ในการเติมสินค้า หากประชาชนพบเห็นการเอารัดเอาเปรียบ แจ้งสายด่วน 1569 ได้ทันที
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ประชุมหารือร่วมกับห้างค้าปลีกค้าส่ง ได้แก่ บิ๊กซี โลตัส แม็คโคร ฟู้ดแลนด์ ท็อปส์ เดอะมอลล์ เซเว่นอีเลฟเว่น ลอว์สัน และแม็กซ์แวลู เพื่อติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าและปริมาณสินค้าว่าได้มีการสำรองไว้เพียงพอหรือไม่ และมีข้อติดขัดในการขนส่งสินค้าหรือไม่ ตามนโยบายที่ได้รับจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่เป็นห่วงสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ อาจจะส่งผลกระทบต่อการบริโภคสินค้าของประชาชน โดยผลการหารือแต่ละห้างได้ยืนยันว่า ได้จัดเตรียมสินค้าคงคลังไว้เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคแล้ว ส่วนการขนส่งไปยังศูนย์กระจายสินค้าและสาขาของห้างยังคงสามารถดำเนินการได้ และมีแผนรับมือในสถานการณ์ฉุกเฉินไว้แล้ว
“กรมฯ ได้กำชับให้ห้างเพิ่มปริมาณสต็อกสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการ โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีความจำเป็น เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง อาหารสำเร็จรูป และน้ำดื่ม อีกทั้งให้เพิ่มความถี่ในการเติมสินค้าบนชั้นวางอยู่เสมอ ปิดป้ายราคาให้ชัดเจน และให้ห้างบริหารจัดการการจัดส่งสินค้า หากศูนย์กระจายสินค้าได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เช่น จัดหาศูนย์กระจายสินค้าสำรอง และเน้นการส่งสินค้าจากผู้ผลิตไปยังสาขาห้างโดยตรง เพื่อป้องกันปัญหาด้านการขนส่งสินค้า โดยกรมฯ พร้อมที่จะสนับสนุนในการประสานงานกับผู้ผลิตเพื่อจัดส่งสินค้าอุปโภคบริโภคไปยังห้างค้าส่ง-ค้าปลีกเพิ่มเติมในกรณีที่จำเป็นด้วย”นายวัฒนศักย์กล่าว
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าปริมาณสินค้ามีเพียงพออย่างแน่นอน ไม่ต้องกังวลและไม่จำเป็นต้องกักตุน และกรมฯ จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้าและปริมาณอย่างต่อเนื่อง หากประชาชนพบเห็นการกักตุนสินค้าหรือขายสินค้าโดยไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ถ้าตรวจสอบพบมีการจำหน่ายสินค้าในราคาแพงเกินสมควร หรือมีการกักตุน หรือปฏิเสธการจำหน่าย จะมีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีที่ไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายจะมีโทษสูงสุดปรับไม่เกิน 10,000 บาท