“ศักดิ์สยาม” กดปุ่มเปิดรถเมล์ไฟฟ้า สาย 17 และสาย 82 เชื่อมโยงเดินทางจากฝั่งธนฯ เชื่อมต่อระบบล้อ-ราง-เรือ สะดวกไร้รอยต่อ “ไทยสมายล์บัส” จัดโปรฯ บัตรคนจนจ่าย 10 บาท ตั๋ววัน 40 บาท ถึงสิ้นปี
วันนี้ (29 ก.ย.) ณ ไทยสมายล์บัส ศูนย์พระประแดง กรุงเทพมหานคร นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานพิธีทดลองเปิดให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า สาย 17 (4-3) เส้นทางพระประแดง-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และสาย 82 (4-15) ท่าน้ำพระประแดง-บางลำพู ซึ่งเป็นเส้นทาง เชื่อมโยงทุกการเดินทางอย่างไร้รอยต่อ โดยมีผู้บริหารกระทรวงคมนาคมและผู้บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด เข้าร่วม
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ กล่าวว่า จากเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมาได้มีการเปิดให้บริการรถโดยสารประจำทางด้วยพลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle หรือรถ EV) สาย 8 เส้นทางแฮปปี้แลนด์-ท่าเรือสะพานพุทธแล้ว โดยบรรจุรถเข้าบริการแล้ว 153 คัน ซึ่งจากการทดลอง 1 เดือนเศษ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชน จากสถิติการเดินทางถึงปัจจุบันพบว่ามีผู้นิยมใช้บริการในแต่ละวันมีค่าเฉลี่ยมากกว่า 7,000 คน ซึ่งถือว่าค่อนข้างดี หลังโควิดคลี่คลายการเดินทางเริ่มกลับสู่ปกติ
สำหรับการทดลองเปิดให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า สาย 17 และสาย 82 ทั้ง 2 สาย จะบรรจุรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าเบื้องต้นจำนวนรวม 20 คัน แบ่งเป็นสาย 17 จำนวน 5 คัน และสาย 82 จำนวน 15 คัน จากนั้นทยอยเพิ่มจำนวนรถ โดยในวันที่ 5 ต.ค.นี้จะเปิดให้บริการเป็นครั้งที่ 3 ด้วยไทย สมายล์บัส
และภายใต้การเร่งรัดการดำเนินการในปีนี้จะมีรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าเพิ่มเป็น 972 คัน ใน 77 เส้นทางจากการผลักดันนโยบายอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562 โดยภายในปี 2565 จะสามารถใช้บริการเครือข่ายรถเมล์พลังงานสะอาดกว่า 1,250 คัน ใน 122 เส้นทางที่ปฏิรูปใหม่ ซึ่งได้มีการวางแผนเชื่อมต่อระบบ ล้อ-ราง-เรือ อย่างครบวงจร
โดยเส้นทางสาย 17 พระประแดง-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จะเชื่อมต่อกับระบบการขนส่งทางราง รถไฟฟ้าสายสีเขียว บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิอันเป็นจุดศูนย์กลางของการเชื่อมต่อของกรุงเทพมหานคร ส่วนสาย 82 ท่าน้ำพระประแดง-บางลำพู จะเชื่อมต่อการขนส่งทางน้ำ ณ ท่าเรือสะพานพุทธ ซึ่งเป็นท่าเรืออัจฉริยะรองรับรูปแบบการเดินทางของคนรุ่นใหม่
ทั้งนี้ รถเมล์ไฟฟ้าที่มีพลังงานสะอาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) เป็นรถปรับอากาศทำให้ประชาชนผู้ใช้บริการได้รับความสบายเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้การเดินทางของพี่น้องประชาชนไม่น่าเบื่ออีกต่อไป รวมถึงได้ขอให้บริษัทฯ ติดตั้งโทรทัศน์ภายในรถโดยสาร เพื่อผู้ใช้บริการได้ติดตามข้อมูลข่าวสารและตรวจสอบเส้นทางในการเดินทาง นอกจากนี้ ภายในรถมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV จำนวน 6 จุด เพื่อเฝ้าระวังติดตามการป้องกันการก่อเหตุอาชญากรรม และการทะเลาะวิวาท เพิ่มความปลอดภัยให้ประชาชน
และในอนาคต บริษัท ไทย สมายล์บัส จะมีการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ชื่อ TSB GO ที่เพิ่มความสะดวกในการเดินทาง โดยเก็บข้อมูลการเดินทาง ปริมาณผู้โดยสาร ผ่าน E Ticket และ CCTV นำมาวิเคราะห์ เพื่อกำหนดการจัดสรรเวลาเดินรถที่เหมาะสม กับปริมาณผู้โดยสาร ขณะที่ประชาชนจะสามารถตรวจสอบตำแหน่งรถว่าอีกกี่นาทีรถมาถึง และดูว่าในรถคันนั้นมีผู้โดยสารกี่คัน เหลือที่นั่งว่างเท่าไร เพื่อวางแผนในการเดินทางมากขึ้น ถือเป็นเครื่องมือที่เพิ่มความสะดวกในการใช้บริการและยกระดับคุณภาพชีวิตมากขึ้น
สำหรับการกำหนดราคาค่าโดยสารตามระยะทางไว้ที่ 15-20-25 บาท โดยบริษัทฯ ได้ให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยจัดเก็บค่าโดยสารที่ราคา 10 บาท ตลอดสายจนถึงสิ้นปี 2565 และจัดทำตั๋วพิเศษ สำหรับประชาชนทั่วไปที่เดินทางค่าโดยสารมากกว่า 40 บาทต่อวัน จะไม่มีการเก็บค่าโดยสารเพิ่มหรือเป็นตั๋ววัน เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม