โลตัส เฉลิมฉลองครบรอบ 28 ปี ของการเป็นผู้นำวงการค้าปลีกสมัยใหม่ในประเทศไทย ทุ่มงบกว่า 200 ล้านบาทส่งแคมเปญเฉลิมฉลองและขอบคุณลูกค้าทั่วประเทศ พร้อมเดินหน้าต่อยอด New SMART Retail ผลักดันการเติบโตแบบ omni-channel ด้วยการเปิดสาขา next generation รูปแบบใหม่ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ในแต่ละพื้นที่ ควบคู่กับการเป็น fulfillment center สำหรับธุรกิจออนไลน์ ตั้งเป้ายอดขาย 20% ของยอดขายรวมภายใน 3 ปี
นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 28 ปีที่ผ่านมา โลตัส มีส่วนร่วมในการผลักดันวิวัฒนาการของค้าปลีกสมัยใหม่ในประเทศไทยในทุกยุคสมัย ตั้งแต่ Retail 1.0 ซึ่งคือการเริ่มต้นของร้านค้าในรูปแบบไฮเปอร์มาร์เกต ที่นำความสะดวกสบายของการมีสินค้าคุณภาพสูงที่ครบครันและหลากหลายอยู่ภายในที่เดียวในราคาที่คุ้มค่า โดยโลตัส ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาแรกเปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2537 หลังจากนั้นในยุค Retail 2.0 ได้ต่อยอดด้วยการพัฒนาพื้นที่ศูนย์การค้าเพื่อให้มีร้านค้าที่เติมเต็มการใช้ชีวิตของลูกค้ามากขึ้น เพื่อให้โลตัสเป็นศูนย์รวมของการใช้ชีวิตของสมาชิกทุกคนในครอบครัว นอกเหนือจากการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคในไฮเปอร์มาร์เกต ตลอดจนการพัฒนาสาขารูปแบบใหม่ๆ ทั้งขนาดกลางและขนาดเล็ก ในปี พ.ศ. 2556
ภายใต้ยุค Retail 3.0 และการเกิดขึ้นของ e-commerce โลตัส เป็นค้าปลีกซูเปอร์มาร์เกตรายแรกในประเทศไทยที่เปิดตัวแพลตฟอร์มสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ของตนเอง จำหน่ายสินค้าครอบคลุมทุกหมวดหมู่ รวมถึงอาหารสด โดยสามารถจัดส่งสินค้าจากสาขา และยังมีรูปแบบ click & collect ให้ลูกค้าสามารถมารับสินค้าได้ด้วยตนเอง และในยุค Retail 4.0 คือการเติบโตของค้าปลีกแบบ omni-channel และ personalization โดยโลตัสได้เปิดตัวแอปพลิเคชัน Lotus’s SMART App ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยรวมออนไลน์ชอปปิ้งเอาไว้กับโปรแกรมขอบคุณลูกค้า MyLotus’s เพื่อส่งมอบประสบการณ์การชอปปิ้งที่ไร้รอยต่อระหว่างออฟไลน์กับออนไลน์ ควบคู่ไปกับความคุ้มค่าที่ถูกออกแบบมาสำหรับลูกค้าแต่ละคน โดยใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะ ซึ่งในช่วงเวลาเพียงแค่ 6 เดือนหลังจากเปิดตัวแอปพลิเคชัน Lotus’s SMART App ปัจจุบันมีผู้ดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 5.3 ล้านราย และช่วยผลักดันให้ยอดสั่งซื้อสินค้าออนไลน์โตขึ้นกว่า 12 เท่าตัว”
“ก้าวต่อไปของโลตัส ในปีที่ 29 ของการดำเนินธุรกิจ คือการเป็นผู้นำผลักดัน Retail 5.0 New SMART Retail ในประเทศไทย ด้วยการเดินหน้าเปิดสาขา next generation ในหลากหลายรูปแบบที่มีความเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ โดยที่ทุกสาขาจะต้องทำหน้าที่เป็น fulfillment center ในการจัดส่งสินค้าสำหรับแพลตฟอร์มออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดอีกด้วย โดยโลตัสตั้งเป้าภายใน 3 ปียอดขายจากแพลตฟอร์มออนไลน์จะมีสัดส่วน 20% ของยอดขายโดยรวมทั้งหมด สำหรับพื้นที่ศูนย์การค้าจะได้รับการปรับและเพิ่มพื้นที่ให้เป็น Everyday SMART Community Center ศูนย์รวมการใช้ชีวิตในทุกๆ วันของชุมชนรอบข้าง โดยมีร้านค้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ มุ่งเน้นการเป็น inspiring food destination และการทำกิจกรรมของชุมชน แผนงานภายใน 3 ปีข้างหน้าคือการปรับพื้นที่ศูนย์การค้าใน 140 สาขา ควบคู่กับการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ต่อยอดสู่การเป็นผู้พัฒนาและบริหารโครงการค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต”
“ในส่วนของแพลตฟอร์มออนไลน์ เราจะเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีให้สามารถรองรับการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ที่จะโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด รวมถึงการใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการวิเคราะห์ข้อมูลและพฤติกรรมการซื้อสินค้าของลูกค้าในแต่ละราย เพื่อมอบส่วนลด สิทธิประโยชน์ และข้อเสนอที่ตรงใจลูกค้าในระดับปัจเจกบุคคล ปัจจุบันเรามีฐานสมาชิกโปรแกรมขอบคุณลูกค้า มายโลตัส (MyLotus’s) กว่า 23 ล้านบัญชี โดยตั้งเป้า migrate สมาชิกทั้งมาอยู่บนแพลตฟอร์ม Lotus’s SMART App เพื่อการใช้งานที่สะดวกและไร้รอยต่อที่สุด นอกจากนั้น แผนงานด้านผลิตภัณฑ์จะต้องตอบโจทย์เทรนด์และไลฟ์สไตล์ในอนาคต รวมถึงความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น สินค้าพรีเมียม สินค้านำเข้า สินค้าอัตลักษณ์ สินค้าท้องถิ่น สินค้า SME โดยในแต่ละสาขาจะมีสินค้าที่แตกต่างกันไปตามความเหมาะสมของโปรไฟล์ลูกค้าในแต่ละพื้นที่ นอกจากนั้น แผนงานพัฒนาสินค้า own brand ของเราจะมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าที่ดีต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี รวมถึงอาหารสดคุณภาพสูง ปลอดภัย มาจากแหล่งที่ยั่งยืน และจำหน่ายในราคาที่เอื้อมถึงได้”
“พื้นฐานที่สำคัญของแผนงานธุรกิจเพื่อขับเคลื่อนการเป็นผู้นำ New SMART Retail คือแผนงานด้านความยั่งยืนที่ถูกผนวกเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจในทุกๆ ด้าน ภายใต้แนวคิด Vision 2030. Actions every day. มุ่นเน้น 4 ประเด็นที่มีความสำคัญต่อธุรกิจค้าปลีก omni-channel คือ การสนับสนุนการมีสุขภาพและสุขภาวะที่ดี (Health & Well-being) การสร้างคุณค่าและประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้แก่สังคม (Social impact & economic contribution) ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งรวมถึงประเด็นขยะอาหารและบรรจุภัณฑ์ (Circular economy) และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate resilience)”
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองโอกาสโลตัสครบรอบ 28 ปี ของการสร้างความรู้สึกดีๆ ทุกวัน และขอบคุณลูกค้า โลตัส ทุ่มงบประมาณกว่า 200 ล้านบาท จัดแคมเปญยิ่งใหญ่ทั้งในสาขาและช่องทางออนไลน์ ตั้งแต่ 29 กันยายน ถึง 2 พฤศจิกายน 2565 โดยมีสินค้า 28 รายการที่ลดราคาแรงสูงสุด 40% นอกจากนั้น ยังได้ร่วมมือกับ 28 แบรนด์ดังมอบคูปองส่วนลดพร้อมส่งฟรีไม่มีขั้นต่ำเมื่อสั่งซื้อออนไลน์ สำหรับโปรแกรมมายโลตัส ก็จัดแคมเปญพิเศษแลกสุดคุ้ม 1 โลตัสคอยน์ เท่ากับ 28 บาท นอกจากนั้นยังมีรางวัลกว่า 3,000 รางวัล มูลค่ารวมกว่า 7 ล้านบาท ลุ้นทุกสัปดาห์ (เงื่อนไขตามที่บริษัทฯ กำหนด)