กรมการค้าภายในหารือสมาคมตลาดกลางค้าส่งสินค้าเกษตรไทย สมาคมตลาดสด และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ติดตามสถานการณ์ผักสดรับเทศกาลกินเจ ยันผักมีเพียงพอต่อความต้องการ พร้อมคิกออฟ พาณิชย์ลดราคา! เทศกาลกินเจ 25 ก.ย.นี้ จำหน่ายผัก สินค้าอุปโภคบริโภค และอาหารเจปรุงสุก ลดภาระค่าครองชีพให้พี่น้องประชาชน ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ประชุมหารือร่วมกับสมาคมตลาดกลางค้าส่งสินค้าเกษตรไทย สมาคมตลาดสด และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อติดตามสถานการณ์ผักในแต่ละแหล่งผลิตทั่วประเทศ และเข้าสู่ช่วงเทศกาลกินเจ โดยพบว่าผักบางชนิดราคาทรงตัว เช่น กะหล่ำปลี คะน้า แต่บางชนิดที่มีความอ่อนไหวต่อสภาพอากาศช่วงน้ำท่วม มีการปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย เช่น ขึ้นฉ่าย ผักกาดหอม กวางตุ้ง และบางชนิดที่มีการปรับตัวลดลง เช่น ผักบุ้ง ถั่วฝักยาว พริกแดงจินดา
ทั้งนี้ ยังได้รับรายงานว่า เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวนส่งผลให้แหล่งผลิตสินค้าทางการเกษตรได้รับผลกระทบในบางพื้นที่ ทำให้ปริมาณผักเข้าสู่ตลาดลดลงแต่ยังคงมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค จึงขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวล
นายอุดมกล่าวว่า กรมฯ ยังได้ลงพื้นที่ตลาดบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี เพื่อติดตามสถานการณ์ผักสด โดยราคาสินค้าในภาพรวมยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนักเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว โดยสินค้าที่มีราคาปรับสูงขึ้นส่วนใหญ่เป็นผักชนิดใบที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังบางส่วนจึงได้รับความเสียหายบ้าง ขณะเดียวกันผักจากพื้นที่สูง เช่น กะหล่ำปลี ผักขาวปลี ราคายังทรงตัวไม่มีการเปลี่ยนแปลง นอกจากนั้น ผักบางชนิดราคาปรับลดลง และพบว่าในปีนี้ผู้บริโภคซื้อสินค้าในปริมาณที่น้อยลงจากปีก่อน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและยังมีค่าใช้จ่ายอีกหลายด้าน
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกในการซื้อสินค้าและแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้แก่ผู้บริโภค กรมฯ ได้ดำเนินโครงการ พาณิชย์ลดราคา! เทศกาลกินเจ จำหน่ายผัก สินค้าอุปโภคบริโภค และอาหารเจปรุงสุก ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยจะมีการ Kick Off ในวันที่ 25 ก.ย. 2565 ณ ตลาดสามย่าน กรุงเทพฯ
นอกจากนี้ กรมฯ จะติดตามและประเมินสถานการณ์ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดและสมาคมตลาดกลางค้าส่งสินค้าเกษตรไทยและสมาคมตลาดสดอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงใกล้เทศกาลกินเจ (26 ก.ย.-4 ต.ค. 2565) เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบ และขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายให้ชัดเจน ห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาโดยไม่เป็นธรรม หากตรวจพบจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่ติดป้ายแสดงราคาจะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการจำหน่ายสินค้าหรือบริการที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ