“สุริยะ” เตรียมบินไปออสเตรเลีย 23 ก.ย.เพื่อเจรจากับคิงส์เกตฯ กรณีคดีเหมืองทองอัครา มั่นใจทิศทางสดใส ลั่นครม.ไม่ได้อนุมัติงบสู้คดีเพิ่มยังคงเดิมแต่ขยายกรอบการเจรจาไปสิ้นสุดปีงบ 2560-66 ควง 4 องค์กรชาวไร่ตบเท้าเข้าขอบคุณบิ๊กป้อมอัดงบช่วยตัดอ้อยสด 8,319.74 ล้านบาท
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า วันที่ 23 กันยายนนี้ตนจะเดินทางไปยังประเทศออสเตรเลียเพื่อเจรจาเพิ่มเติมกับผู้บริหารของบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด กรณีคดีเหมืองทองอัคราซึ่งเชื่อว่าจะนำไปสู่แนวทางที่ดี อย่างไรก็ตาม คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมาไม่ได้มีการอนุมัติงบเพิ่มเติมเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการระงับข้อพิพาทระหว่างราชอาณาจักรไทย กับบริษัท คิงส์เกตฯ แต่อย่างใด หากแต่เพียงเป็นมติขยายเวลาจากเดิมที่กำหนดปีงบประมาณ 60-64 ขยายไปเป็นสิ้นสุดปีงบประมาณ 60-66
“ครม.ไม่มีการอนุมัติงบเพิ่มเติมแต่อย่างใดยังอยู่ที่ 796.67 ล้านบาทเหมือนเดิม ข่าวก่อนหน้าที่ระบุขยายกรอบวงเงินเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน เพียงแต่มีการขยายกรอบระยะเวลาการสู้คดีเนื่องจากการเจรจายังไม่สิ้นสุด และแนวทางการสู้คดียังคงเหมือนเดิม ซึ่งคณะอนุญาโตตุลาการได้เลื่อนการอ่านคำชี้ขาดไปเป็นวันที่ 31 ธ.ค. 65 ซึ่งระหว่างนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจากับบริษัท คิงส์เกตฯ และได้ปรึกษากับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้ให้แนวทางที่เน้นไปที่การเจรจา” นายสุริยะกล่าว
นายสุริยะยังกล่าวภายหลังจากให้ผู้บริหาร 4 องค์กรชาวไร่อ้อย ประกอบด้วย สหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย ชมรมสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน สหสมาคมชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย เข้าพบเพื่อแสดงความขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐบาล ว่า มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2565 เห็นชอบโครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ฤดูการผลิตปี 2564/65 ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ โดยมีนโยบายช่วยเหลือชาวไร่อ้อยทุกรายที่ตัดอ้อยสดคุณภาพดีส่งโรงงานเท่านั้น ในอัตรา 120 บาทต่อตันเช่นเดียวกับฤดูการผลิตปี 2563/64 ซึ่งมีเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดส่งโรงงานเพื่อผลิตน้ำตาลทราย ผลิตเอทานอล และผลิตน้ำตาลทรายแดง ได้ประโยชน์รวมกว่า 200,000 ราย คาดว่าจะสามารถเริ่มจ่ายเงินช่วยเหลือภายในเดือนพฤศจิกายน 2565 เกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดจะได้รับราคาอ้อยขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2564/65 รวมกับเงินช่วยเหลือแล้วไม่ต่ำกว่าตันละ 1,100 บาท สำหรับนำไปเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพต่อไป