xs
xsm
sm
md
lg

อคส.ลุยทวงคืนเงินโกงข้าว-มัน-ถุงมือ 5.4 แสนล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อคส.เดินหน้าฟ้องทวงคืนค่าเสียหายคดีทุจริต 3 โครงการ รวมเกือบ 5.4 แสนล้านบาท จากคดีจำนำข้าวกว่า 5 แสนล้าน 1,180 คดี จำนำมันสำปะหลัง 3.3 หมื่นล้าน 164 คดี และจัดซื้อถุงมือยาง 2 พันล้าน ที่รอ ป.ป.ช.ชี้มูล เผยยังมีคดีทุจริตจำนำสินค้าเกษตรตั้งแต่ปี 2542/43 อีก 34 โครงการ ที่อยู่ระหว่างฟ้องร้องดำเนินคดี

นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีจำนวนเงินที่เป็นมูลค่าความเสียหายของ อคส.อย่างน้อย 3 ก้อน รวม 539,861 ล้านบาท ที่ อคส.จะต้องเร่งฟ้องร้องดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิด และติดตามเงินมาคืนให้ อคส.ให้ได้ ได้แก่ 1. ความเสียหายจากทุจริตโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี และนาปรัง 504,861 ล้านบาท 2. ความเสียหายจากทุจริตโครงการรับจำนำมันสำปะหลัง 33,000 ล้านบาท และ 3. ความเสียหายจากการทุจริตจัดซื้อถุงมือยาง 2,000 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ย

โดยการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี และนาปรังปี 2554-57 ที่ อคส.ส่งให้อัยการฟ้องร้องดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิด เช่น เจ้าของโกดัง คลังสินค้า โรงสี บริษัทตรวจสอบคุณภาพข้าว (เซอร์เวเยอร์) ล่าสุดมีทั้งสิ้น 1,180 คดี ความเสียหาย 504,861 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37 คดี จากช่วงก่อนหน้านี้ที่ส่งฟ้องแล้ว 1,143 คดี รวมความเสียหาย 494,198 ล้านบาท โดยคดีที่เพิ่มขึ้นทั้ง 37 คดีเป็นการฟ้องคดีแพ่งในฐานะที่เจ้าของโกดังและคลังสินค้า รวมถึงเซอร์เวเยอร์ ทำให้น้ำหนักข้าวในสต๊อกหายไปมากกว่าปริมาณเผื่อเหลือเผื่อขาดที่กำหนดไว้ หรือหายไปมากกว่า 1% ทำให้ อคส.เสียหายมากกว่า 500 ล้านบาท และยังฟ้องร้องเจ้าของคลังสินค้าบางรายในคดีอาญา เพราะมีการยึดหน่วงข้าวที่ฝากเก็บ ไม่ยอมให้ผู้ชนะการประมูลข้าวสต๊อกรัฐช่วงที่ผ่านมาเข้าไปขนย้ายข้าวออกจากคลัง หรือโกดัง จนทำให้ผู้ชนะประมูลเสียโอกาสทางธุรกิจ และบางรายยกเลิกการซื้อ ทำให้ อคส.เสียหายอีก

ส่วนคดีที่ส่งฟ้องก่อนหน้านี้ 1,143 คดี มีทั้งที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาในชั้นศาลปกครองกลาง และศาลปกครองสูงสุด โดยมีคดีที่ตัดสินแล้ว 15 คดี อคส.ชนะเพียง 3 คดี และแพ้สูงถึง 12 คดี ซึ่งคดีที่แพ้ส่วนใหญ่เป็นกรณีที่ อคส.ฟ้องเจ้าของคลังสินค้า ทำให้ข้าวเสื่อมสภาพ แต่ อคส.จะพยายามต่อสู้ให้ถึงที่สุด

สำหรับคดีทุจริตโครงการรับจำนำมันสำปะหลังปี 2551/52 ปี 2554/55 และปี 2555/56 ล่าสุดส่งฟ้อง 164 คดี ความเสียหาย 20,065 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3 คดีจากก่อนหน้านี้ ที่ส่งฟ้อง 161 คดี ความเสียหาย 18,723 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นการฟ้องร้องว่าผู้รับฝากเก็บมันสำปะหลังในสต๊อก ทำให้มันหายไปจากสต๊อก หรือเสื่อมคุณภาพ โดยล่าสุดศาลตัดสินจำคุกผู้กระทำผิดแล้ว 26 คดี และจะทยอยส่งฟ้องคดีที่เหลือให้เสร็จสิ้นในเร็วๆ นี้ เพราะ อคส.เกิดความเสียหายจากโครงการมันสำปะหลังทั้ง 3 โครงการนี้รวมประมาณ 33,000 ล้านบาท

ทางด้านคดีทุจริตโครงการจัดซื้อถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาท ขณะนี้รอเพียงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลผู้กระทำผิด ถ้า ป.ป.ช.ชี้มูลได้เมื่อไร นอกจากจะทำให้อัยการส่งฟ้องร้องดำเนินคดีอาญาต่อผู้กระทำผิดแล้ว สำนักงานคณะกรรมการป้องกันการฟอกเงิน (ปปง.) ก็จะสามารถดำเนินการทางแพ่งเพื่อติดตามเงิน 2,000 ล้านบาท ที่ พ.ต.ท.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ อดีตรักษาการผู้อำนวยการ อคส.และพวก ได้ร่วมกันถอนออกจากบัญชี อคส.ไปจ่ายเป็นค่ามัดจำถุงมือยางให้กับเอกชนคู่สัญญาที่รับจ้างผลิตถุงมือยางเอามาคืนให้กับ อคส.ได้

นอกจากนี้ ยังมีโครงการรับจำนำสินค้าเกษตร เช่น เงาะ ลำไย ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กุ้ง ตั้งแต่ปี 2542/43 เป็นต้นมาอีกประมาณ 34 โครงการ ที่ยังไม่สามารถปิดโครงการได้ และ อคส.อยู่ระหว่างฟ้องร้องดำเนินคดีด้วย

อย่างไรก็ตาม ยังมีข้าวสารในสต๊อกที่เหลือล็อตสุดท้ายอีกประมาณ 200,000 ตัน หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้อนุมัติให้เปิดประมูลไปแล้วนั้น อคส.จะเร่งเปิดประมูลในเร็วๆ นี้ เพื่อให้สามารถปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวได้ทั้งหมด จากนั้นจึงจะรู้ว่าโครงการรับจำนำข้าวที่ผ่านมาทำให้รัฐเสียหายเท่าไร เฉพาะความเสียหายจากการทุจริตที่ อคส.ฟ้องร้องก็มากกว่า 500,000 ล้านบาทแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น