กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) แนะผู้ประกอบการไทยใช้ช่องทางออนไลน์ซื้อสินค้าหรือหาวัตถุดิบจากบราซิล หลังพบผู้ส่งออกบราซิลหันมาใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ทำตลาดกันเพิ่มมากขึ้น
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้มอบหมายให้กรมฯ สำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยในประเทศต่างๆ ล่าสุดได้รับรายงานจากนางสาวพุทธชาติ วงษ์มงคล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซาเปาโล ถึงการใช้ประโยชน์จากช่องทางออนไลน์ในการซื้อสินค้าหรือหาวัตถุดิบจากบราซิล หลังจากตลาดอีคอมเมิร์ซในบราซิลมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผู้ผลิต ผู้ส่งออกบราซิลได้หันมาใช้ช่องทางออนไลน์ขายสินค้าและเป็นช่องทางส่งออกสินค้าไปตลาดต่างประเทศมากขึ้น
ทั้งนี้ ทูตพาณิชย์ได้รายงานว่าปัจจุบันแพลตฟอร์มออนไลน์ได้สร้างโอกาสให้บริษัทผู้ส่งออกรายใหม่ของบราซิลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผลสำรวจในปี 2564 มีจำนวนผู้ส่งออกทั้งสิ้น 30,960 บริษัท แต่มีเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นที่เป็นผู้ส่งออกประจำ แต่หลังเกิดสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ผู้ส่งออกเป็นจำนวนมากหันมาใช้ช่องทางออนไลน์ในการขายสินค้าเพิ่มขึ้น และมีจำนวนผู้ส่งออกเพิ่มจำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ส่งออกรายย่อย จากเดิมที่การขายสินค้าออนไลน์เพื่อส่งออกจะเป็นผู้ส่งออกรายกลางและใหญ่
ขณะเดียวกัน มีข้อมูลที่สำรวจโดยนักเศรษฐกิจ และนักสถิติในบราซิล พบว่าในปี 2564 ที่ผ่านมามีบริษัทในบราซิลที่เปิดตัวสินค้าในต่างประเทศสูงถึง 5,270 ราย เพิ่มขึ้น 26% และยังมีข้อมูลจากสมาคมการค้าต่างประเทศของบราซิล (AEB) ที่ยืนยันว่ามีบริษัทขนาดเล็กที่สามารถส่งออกสินค้าให้บริการเฉพาะกลุ่มที่เป็นบริษัทนำเข้าขนาดเล็กที่แสวงหาซัปพลายเออร์ขนาดเล็กเพิ่มมากขึ้นด้วย
สำหรับสินค้าที่มีการขายผ่านช่องทางออนไลน์ และมีการเติบโตสูง เช่น ของขวัญและดอกไม้ เพิ่ม 14.3% แฟชั่น เพิ่ม 12.6% เครื่องประดับและนาฬิกา เพิ่ม 11% เป็นต้น โดยเว็บไซต์ที่สำคัญของบราซิล ได้แก่ 1. Mercado Livre 2. Shopee 3. AmazonBrasil 4. Americanas 5. Magalu 6. AliExpress 7. iFood 8. Casas Bahia 9. Netshoes และ 10. Shein ซึ่งผู้ผลิต ผู้นำเข้าของไทย ควรที่จะศึกษาและใช้โอกาสนี้มองหาสินค้าหรือซื้อวัตถุดิบจากผู้ผลิต ผู้ส่งออกของบราซิล