“จุรินทร์” สั่งการกรมการค้าภายในพิจารณากรณีผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขอปรับขึ้นราคาตามต้นทุนจริง ให้กระทบผู้บริโภคน้อยที่สุด ย้ำหากขึ้นแล้วต่อไปต้นทุนลดต้องปรับลดราคาลงมาด้วย
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขอขึ้นราคาจากซองละ 6 บาท เป็น 8 บาท ว่า ได้มอบนโยบายให้กรมการค้าภายในไปดูต้นทุน ซึ่งเข้าใจว่าวิเคราะห์ต้นทุนทั้งหมดเสร็จแล้ว และถ้าจะต้องปรับราคาขึ้นต้องเป็นไปตามต้นทุนที่สูงขึ้นจริง ให้เดือดร้อนผู้บริโภคน้อยที่สุด และผู้ประกอบการสามารถอยู่ได้ ไม่ต้องถึงภาวะขาดทุน และหยุดการผลิต หรือส่งออกอย่างเดียว เพราะตลาดต่างประเทศราคาดีกว่า
“บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขอปรับราคาเป็นเรื่องจริง อย่างมาม่าเคยปรับราคาเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วครั้งหนึ่ง จากซองละ 5 บาทเป็นซองละ 6 บาท เมื่อปี 2551 ซึ่งล่วงเลยมา 14 ปีแล้ว และได้ขอปรับราคาเข้ามาอีกตั้งแต่ปีที่แล้ว หรือเกือบ 2 ปีแล้ว แต่กรมการค้าภายในยังไม่อนุญาต เพราะต้องดูผลกระทบต่อภาระของผู้บริโภคด้วย และตอนนี้ขอปรับจากซองละ 6 บาทขึ้นเป็นซองละ 8 บาท ส่วนตัวคิดว่าอาจจะมากเกินไป ถ้าสูงขนาดนี้จะกระทบผู้บริโภคผู้มีรายได้น้อยมากเกินสมควร แต่ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับกรมการค้าภายในที่จะต้องไปดู” นายจุรินทร์กล่าว
ทั้งนี้ ได้ให้นโยบายกรมการค้าภายในอีกว่าหากต้องขึ้นตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และต่อไปต้นทุนปรับลดลงมาจะต้องมีการปรับราคาลงมาด้วย โดยให้ติดตามสถานการณ์ต้นทุนอย่างใกล้ชิด แต่ขณะนี้ยอมรับความจริงว่าต้นทุนเพิ่มขึ้น ทั้งค่าพลังงาน ค่าไฟฟ้า ค่าก๊าซหุงต้ม ค่าขนส่ง และต้นทุนการผลิตที่เป็นวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นข้าวสาลี หรือน้ำมันพืช