“จุรินทร์” ประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาด เคาะเดินหน้าโครงการประกันรายได้ข้าว ปี 4 พร้อมมาตรการเสริมดันราคาข้าว และเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เตรียมชง นบข.พิจารณาต่อไป ด้านชาวนาขอบคุณที่ขับเคลื่อนโครงการต่อเนื่อง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาด ครั้งที่ 1/2565 ที่อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ (เกียกกาย) ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาการดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีที่ 4 ซึ่งจะมีเกษตรกรได้รับประโยชน์ 4.68 ล้านครัวเรือน ใช้เงินงบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 86,740.31 ล้านบาท และได้พิจารณาโครงการมาตรการคู่ขนาน ประกอบด้วยโครงการย่อย 3 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวชะลอการขายข้าวในช่วงระยะเวลาที่ข้าวประดังกันออกสู่ตลาดจำนวนมาก เพื่อป้องกันข้าวเปลือกราคาตก โดยจะมีเงินช่วยเหลือเกษตรกรไร่ละ 1,500 บาทต่อรายต่อข้าว 1 ตัน 2. โครงการช่วยเหลือดอกเบี้ย 3% ให้แก่สหกรณ์ที่ชะลอการขายข้าว หรือเก็บสต๊อกข้าวไว้ เพื่อไม่ให้ข้าวที่ออกมากมาจนล้นตลาดจนทำให้ข้าวราคาตก 3. โครงการช่วยเหลือดอกเบี้ย 3% ให้แก่โรงสีที่เก็บสต๊อกข้าวไว้เช่นเดียวกัน โดยทั้ง 3 โครงการใช้งบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 8,022.69 ล้านบาท
ทั้งนี้ ยังได้พิจารณาโครงการไร่ละ 1,000 บาท เป็นการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวไม่เกินครอบครัวละ 20 ไร่ เป็นเงินรวมกันทั้งสิ้น 55,364.75 ล้านบาท
“การดำเนิน 3 โครงการ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 150,127.75 ล้านบาท ซึ่งที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบ และขั้นตอนต่อไปจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน พิจารณาต่อไป” นายจุรินทร์กล่าว
นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวว่า นโยบายประกันรายได้ที่นายจุรินทร์ดำเนินการมาต่อเนื่อง และกำลังดำเนินการเข้าสู่ปีที่ 4 ได้สร้างความพอใจให้แก่ชาวนาเป็นอย่างมาก โดยเห็นว่าเป็นโครงการที่ดี จึงได้ส่งคำขอบคุณผ่านสมาคมฯ มายังนายจุรินทร์ เพื่อให้ผลักดันโครงการต่อไป
การประชุมครั้งนี้มีกรรมการจากสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย สมาคมโรงสีข้าวไทย สมาคมส่งเสริมชาวนาไทย และสมาคมชาวนาข้าวไทย พร้อมด้วยกรรมการฝ่ายราชการจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เข้าร่วม