xs
xsm
sm
md
lg

BANPU รับอานิสงส์ถ่านหิน-ก๊าซฯ พุ่ง หนุนไตรมาส 2 กำไรโตแตะ 12,789 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



BANPU เผยไตรมาส 2/65 โกยกำไร 372 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 786% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากรายได้ที่เติบโตขึ้นตามราคาถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ รวมทั้งรับรู้กำไรจากการซื้อธุรกิจก๊าซในสหรัฐฯ และธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มเติม

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2/2565 ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 372 ล้านเหรียญสหรัฐ (เทียบเท่า 12,789 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 330 ล้านเหรียญสหรัฐจากช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือโตขึ้น 786% และเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2565 โดยมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) รวม 948 ล้านเหรียญสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 59% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2565

ส่วนงวด 6 เดือนแรกปีนี้บริษัทมีกำไรสุทธิ 23,053 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 705% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,861 ล้านบาท

ในไตรมาส 2/2565 บริษัทมีรายได้จากการขายรวมอยู่ที่ 1,773 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 60,986 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 122% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องมาจากราคาถ่านหินและก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย BANPU มีราคาขายถ่านหินเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้น 20% จากไตรมาสก่อนหน้า มาอยู่ที่ 156.66 เหรียญสหรัฐต่อตัน และราคาก๊าซธรรมชาติเฉลี่ย 6.64 เหรียญสหรัฐต่อพันลูกบาศก์ฟุต ปรับตัวสูงขึ้น 38% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ประกอบกับการรับรู้กำไรจากการลงทุนในแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ ในสหรัฐอเมริกา ของบริษัท XTO Energy, Inc. and Barnett Gathering LLC (XTO) จำนวน 164 ล้านเหรียญสหรัฐ


ส่วนธุรกิจผลิตไฟฟ้าสร้างกระแสเงินสดอย่างสม่ำเสมอ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจผลิตไฟฟ้า (Energy Generation) ที่ยังคงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดอย่างสม่ำเสมอ โดยธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงทั่วไป (Thermal power plant) สามารถผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นโครงการโรงไฟฟ้าหงสา (HPC) ใน สปป.ลาว ที่มีค่าความพร้อมในการจ่ายไฟฟ้าสูงถึงร้อยละ 91 โรงไฟฟ้า BLCP มีค่าความพร้อมจ่ายร้อยละ 95 ขณะที่โรงไฟฟ้า Nakoso ในประเทศญี่ปุ่นมีส่วนแบ่งกำไร 2.19 ล้านเหรียญสหรัฐ

โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมในประเทศจีนรายงานผลขาดทุนจำนวน 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เป็นไปตามฤดูกาล และผลกระทบจากต้นทุนถ่านหินในประเทศจีนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยมีต้นทุนเฉลี่ยที่ 1,198 หยวนต่อตัน โรงไฟฟ้าซานซีลู่กวง (SLG) ก็ได้รับผลกระทบจากราคาต้นทุนถ่านหินสูงในจีนเช่นกัน ในขณะที่โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple I สหรัฐฯ มีส่วนแบ่งขาดทุน 20.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งได้รวมผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากการแปลงค่าตราสารอนุพันธ์ของโรงไฟฟ้าจำนวน 31.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ส่วนใหญ่มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น

สำหรับธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน (Energy Technology) โดยบ้านปู เน็กซ์ ยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่องผ่านพอร์ตการลงทุนที่หลากหลายและกระจายอยู่ในประเทศต่างๆ เช่น การขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ไปยังประเทศอินโดนีเซีย โดยบริษัท PT.ITM Bhinneka Power หรือ IBP ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบ้านปู ได้มีการเซ็นสัญญาก่อสร้างโครงการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์บนหลังคารวม 7.27 เมกะวัตต์

นอกจากนี้ยังได้ขยายธุรกิจกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System) ผ่านการร่วมทุนระหว่าง Banpu NEXT (ร้อยละ 30) Durapower (ร้อยละ 30) และบริษัท เชิดชัยมอเตอร์เซลส์ จำกัด (ร้อยละ 40) ในการลงทุนจัดตั้งโรงงานแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนในไทย คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2566 และตั้งเป้าจะขยายกำลังการผลิตสู่ 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปีภายในปี 2569


กำลังโหลดความคิดเห็น