xs
xsm
sm
md
lg

กทพ.เร่งทบทวน EIA ทางด่วน”ฉลองรัฐ- วงแหวนรอบที่ 3”ชาวบ้านกังวลถูกเวนคืนเพิ่มหลังปรับแนวเส้นทางใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กทพ.ลุยรื้อ EIA พร้อมปรับแนวทางด่วน สายฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี ช่วง”จตุโชติ- วงแหวนรอบที่ 3 ตามแผน MR-MAP เปิดฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 1 ประชาชนหวั่นผลกระทบเวนคืนเพิ่ม ขยายเขตทางรับสปีด 120กม./ชม.

เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2565 การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 (การปฐมนิเทศโครงการ) โครงการทางพิเศษสายฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี ช่วงจตุโชติ-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร รอบที่ 3 (MR 10) ณ ห้องประชุมอารียา โรงแรมเอเชียแอร์พอร์ท จังหวัดปทุมธานี โดยมีนายชาตรี ตันศิริ รองผู้ว่าการฝ่ายก่อสร้างและบำรุงรักษา กทพ. ได้เป็นประธาน ซึ่งเป็นการรวบรวมข้อคิดเห็นข้อห่วงกังวลและข้อเสนอแนะที่เกี่ยวข้องกับโครงการ เพื่อนำมาพิจารณาร่วมในการศึกษาให้มีความเหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ให้มากที่สุด

นายชาตรี ตันศิริ รองผู้ว่าฯกทพ. เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้กทพ. และกรมทางหลวง (ทล.) บูรณาการโครงการทางพิเศษสายฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี และโครงการถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร รอบที่ 3 (MR 10) เพื่อแก้ไขปัญหาการคมนาคมขนส่งอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพทั้งโครงข่ายทางหลวงและโครงข่ายทางพิเศษ กทพ.จึงได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วย บริษัท โชติจินดา คอนซัลแตนท์ จำกัด บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท ไวส โปรเจ็ค คอนซัลติ้ง จำกัด และบริษัท เอ็นไวร์ไซน์ จำกัด ให้ดำเนินงานศึกษาและจัดทำรายงานการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการทางพิเศษสายฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี ช่วงจตุโชติ-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร รอบที่ 3 (MR 10) มีระยะเวลาศึกษารวมทั้งสิ้น 12 เดือน (360 วัน) โดยเริ่มการศึกษาตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค. 2565 - วันที่ 25 พ.ค.2566

โดยจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเป็นระยะ ๆ อย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลาที่ดำเนินการศึกษา เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลข่าวสารของโครงการอย่างถูกต้อง ครบถ้วน และได้มีส่วนร่วมในการให้ข้อมูลข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะ ซึ่งโครงการจะได้นำไปพิจารณาประกอบการศึกษาและพัฒนาโครงการให้มีความเหมาะสมและครบถ้วนสมบูรณ์ต่อไป

นางสาวจริยา ทองจันทึก ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมเศรษบกิจและการเงิน กล่าวนำเสนอความเป็นมา และความจำเป็นของโครงการ ว่า เดิมโครงการทางด่วน สายฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี มีระยะทางรวม 105 กม. ซึ่งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) ได้เห็นชอบรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการ แล้วตั้งแต่ปี 2564 ต่อมารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มีนโยบาย ในการเชื่อมโยงทางด่วนกับถนนวงแหวนรอบที่3 (MR 10 ) และ MR6 ตามแผนพัฒนา MR-MAP และใช้ทางแยกต่าวระดับ ทางขึ้น-ลงร่วมกัน เพื่อลดผลกระทบการเวนคืน

นอกจากนี้ ยังมีการปรับแนวสายทางเดิมเป็น เส้นทางใหม่ระยะทางประมาณ 5 กม. ที่ กม.12+700 เพื่อให้เชื่อมกับถนนวงแหวนรอบที่3 (MR 10) และเชื่อม MR6 ที่กม.ที่ 17+075 ซึ่งในส่วนนี้ มีผลต่อการเวนคืนตามการศึกษาเดิม

นโยบายกำหนดความเร็ว บนทางด่วน 120 กม/ชม. เพิ่มจากเดิมที่กำหนดไว้ที่ 80 กม./ชม. ทำให้การออกแบบ (Design Speed) ใหม่เพื่อรองรับความเร็ว ทางด่วน 120 กม/ชม. ซึ่งจะมีส่วนที่ต้องเวนคืนเพิ่มจากแบบเดิม เพื่อเพิ่มเขตทางรองรับรัศมีโค้ง ส่วนที่เป็นลูบแลมป์

นอกจากนี้ ยังให้นำเทคโนโลยีเก็บค่าผ่านทางแบบ M-Flow

ดังนั้น กทพ.จึงต้องทบทวนการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อเสนอขอเปลี่ยนแปลงรายงาน EIA เสนอ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.)ใหม่


สำหรับโครงการทางด่วน สายฉลองรัช - นครนายก-สระบุรี ในช่วงแรก ช่วงจตุโชติ-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร รอบที่ 3 (MR 10) มีระยะทาง 17 กม. จุดเริ่มต้นโครงการที่ กม.0+000 เชื่อมต่อทางด่วนฉลองรัช บริเวณด่านฯจตุโชติ โดยมีการปรับแนวเส้นทางจากเดิม ขยับลงด้านล่าง ที่บริเวณกม. 12+700 ไปสิ้นสุดโครงการที่ กม.17+075 เชื่อมต่อถนนวงแหวนฯ รอบที่3 ( MR 10 ) และ M6 ในอนาคต

โดยมีทางขึ้น-ลง 3 แห่ง ได้แก่ 1.บริเวณจุดต่อเชื่อมวงแหวนรอบนอกด้านตะวันออก (จตุโชติ) 2.บริเวณถนนทหัยราษฎร์ และ 3.บนถนนลำลูกกา ตัดกับ ถนนวงแหวนฯ รอบที่3 และกำหนดให้มีพื้นที่บริการทางด่วน(Rest Area) บริเวณประมาณ กม.11+400 ถึง กม.12+700

โดยเส้นทางครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัด 4 เขต /อำเภอ 6 แขวง/ตำบล ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร แขวงออเงิน เขตสายไหม ,แขวงสามวาตะวันออก แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา , แขวงคลองสิบ เขตหนองจอก พื้นที่จังหวัดปทุมธานี ตำบลลำลูกกา ตำบลบึงทองหลาง อำเภอลำลูกกา


อย่างไรก็ตาม ในการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 นี้มีประชาชนในพื้นที่ องค์กรท้องถิ่นและผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมและแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง เนื่องจากโครงการนี้ได้เคยมีการศึกษาและกำหนดแนวเวนคืนไว้แล้ว ดังนั้น เมื่อมีการทบทวนการศึกษาและปรับแนวเส้นทาง ประชาชนส่วนใหญ่จึง กังวลว่า จะได้รับ ผลกระทบการเวนคืนที่ดินที่เพิ่มขึ้น


รายงานข่าวแจ้งว่า ตามการศึกษาเดิม โครงการทางด่วนสายฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี  มีระยะทาง 104.7 กม. มูลค่าลงทุนโครงการ  80,594.31 ล้านบาทว่า โดย ประเมินโครงการในเฟสแรก ช่วงจตุโชติ-วงแหวนร รอบที่ 3 มีมูลค่าลงทุนประมาณ 20,000 ล้านบาท  ซึ่งโครงการนี้กทพ.คาดว่าจะลงทุนโครงการเอง โดยจะออกพันธบัตรระดมทุนเพื่อใช้ก่อสร้าง












กำลังโหลดความคิดเห็น