ส่งออก พ.ค. 65 ยังโตต่อเนื่อง ทำได้มูลค่า 25,509 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 10.5% รวม 5 เดือน 122,631.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 12.9% เหตุตลาดโลกมีความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอาหาร และวัตถุดิบ ส่วนการค้าชายแดนและผ่านแดน 5 เดือน เพิ่ม 17.2%
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือนพ.ค. 2565 มีมูลค่า 25,509 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 10.5% คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 854,372 ล้านบาท และการส่งออกในภาพรวม 5 เดือนปี 2565 (ม.ค.-พ.ค.) มีมูลค่า 122,631.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 12.9% คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 4,037,962 ล้านบาท
สำหรับการส่งออกในเดือน พ.ค. 2565 พบว่า หมวดสินค้าเกษตร เพิ่ม 21.5% เพิ่มขึ้น 3 เดือนต่อเนื่อง โดยสินค้าสำคัญ เช่น ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เพิ่ม 81.4% ผลไม้สด เพิ่ม 28.7% เฉพาะมังคุด เพิ่ม 566.1% สับปะรดสด เพิ่ม 410% ลำไยแห้ง เพิ่ม 214.9% ทุเรียนสด เพิ่ม 11.4% และข้าว เพิ่ม 24.7% สินค้าหมวดอุตสาหกรรมการเกษตร เพิ่ม 32.7% บวก 15 เดือนต่อเนื่อง สินค้าที่ขยายตัวสูง เช่น น้ำตาลทราย เพิ่ม 171.2% อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เพิ่ม 32.5% อาหารสัตว์เลี้ยง เพิ่ม 25.4%
ส่วนหมวดสินค้าอุตสาหกรรม เพิ่ม 11.3% สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ เพิ่ม 141.3% อัญมณีและเครื่องประดับ เพิ่ม 48.3% เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เพิ่ม 14.9% เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เพิ่ม 16.8% ผลิตภัณฑ์ยาง เพิ่ม 10.0% แผงวงจรไฟฟ้า เพิ่ม 14.7%
ทางด้านตลาดส่งออก ตลาดที่ขยายตัวสูงสุด 10 อันดับแรกในเดือน พ.ค. 65 ได้แก่ 1. เอเชียใต้ เพิ่ม 55.7% 2. แคนาดา เพิ่ม 45.3% 3. ตะวันออกกลาง เพิ่ม 37.9% 4. สหรัฐฯ เพิ่ม 29.2% 5. ละตินอเมริกาเพิ่ม 22.5% 6. เกาหลีใต้ เพิ่ม 14.5% 7. CLMV เพิ่ม 13.1% 8. สหภาพยุโรป เพิ่ม 12.8% 9. แอฟริกา เพิ่ม 10.2% และ 10. อาเซียน (5) เพิ่ม 8.3%
นายจุรินทร์กล่าวว่า ปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนการส่งออกให้ขยายตัวมาจากความต้องการสินค้าในตลาดโลกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอาหารที่มีความต้องการจากทั่วโลกสูงขึ้น ส่งให้ไทยส่งออกอาหารได้มากขึ้น และภาคการผลิตทั่วโลกขยายตัว ทำให้ความต้องการวัตถุดิบจากไทย เพื่อใช้ในการผลิตเพิ่มขึ้น และค่าเงินบาทอ่อนค่า มีส่วนช่วยทำให้การส่งออกสามารถแข่งขันราคากับคู่แข่งในตลาดโลกได้ดีขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้ผลดีจากมาตรการที่กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการ เช่น การบริหารจัดการผลไม้ส่งออกไปยังตลาดจีน ที่ปรับรูปแบบโลจิสติกส์ จากบก เป็นเรือและอากาศ ทำให้ส่งออกคล่องตัวขึ้น การจัดงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2022 “The Hybrid Edition” ประสบความสำเร็จ ทำรายได้มากกว่า 60,000 ล้านบาท และนโยบายการเร่งรัดการใช้ประโยชน์จาก FTA และ Mini-FTA และแก้ปัญหาอย่างทันท่วงทีในระดับรัฐมนตรี ซึ่งตนเจรจากับหลายประเทศทั้งรัฐมนตรีการค้าลาว เวียดนาม การเจรจาระดับทูตพาณิชย์กับทางการจีนและประเทศอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
นายจุรินทร์กล่าวว่า สำหรับการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน เดือนพ.ค. 2565 มีมูลค่า 90,704 ล้านบาท ลดลง 3.77% แยกเป็นการค้าชายแดน มูลค่า 55,002 ล้านบาท เพิ่ม 16.33% รวม 5 เดือน มูลค่า 267,052 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.24% และการค้าผ่านแดน มีมูลค่า 35,702 ล้านบาท ลด 24.01% รวม 5 เดือน มูลค่า 137,534 ล้านบาท ลด 23.81%
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์คาดว่าการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีนี้จะยังคงขยายตัว โดย 5 เดือน เพิ่มแล้ว 12.9% ทั้งปียังน่าจะบวกได้ และน่าจะเกินเป้า เพราะตั้งเป้าไว้ที่ 4-5% คิดว่าน่าจะบรรลุเป้า แต่จะเพิ่มไปมากน้อยแค่ไหนต้องประเมินรายละเอียดต่อไป ปีที่แล้วส่งออกทั้งปี 8.5 ล้านล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้าที่ 9 ล้านล้านบาท แต่ 5 เดือนทำได้ 4 ล้านล้านบาทแล้ว น่าจะเกินเป้าที่ 9 ล้านล้านบาทได้