xs
xsm
sm
md
lg

ขสมก.แจงจำเป็นจัดหารถเมล์ EV แก้ปัญหาขาดแคลน ชี้จ้างเหมาแทนจัดซื้อ ไม่ใช้งบลงทุน ไม่ต้องกู้เงินเพิ่ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ขสมก.แจงความจำเป็นเร่งจัดหารถเมล์ EV เผยวิธีจ้างเหมาวิ่ง นำร่อง 224 คัน แทนการซื้อ ไม่ใช้งบลงทุน ไม่ต้องกู้เงินเพิ่ม ไม่มีภาระผูกพันระยะยาว ใช้รายได้ค่าโดยสารจ่ายค่าจ้าง ดำเนินการชั่วคราวระหว่างรอแผนฟื้นฟููเพื่อแก้ปัญหารถให้บริการขาดแคลน

วันที่ 30 มิ.ย. 2565 องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ชี้แจงกรณีโครงการจ้างเหมาวิ่งรถเมล์ EV นำร่อง 224 คัน มูลค่า 953 ล้านบาท อาจเลี่ยงปมไม่ผ่านคณะกรรมการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) บอร์ดสภาพัฒน์ ว่า การจัดหารถโดยสารในวิธีการจ้างเหมาบริการ แทนที่จะเป็นการซื้อ หรือการเช่ารถโดยสารประจำทางนั้น การจ้างเหมาบริการ (เอกชนจัดหารถโดยสารและพนักงานขับรถ) เป็นการใช้งบดำเนินงานจากค่าโดยสาร ส่วนต่างของต้นทุนด้านเชื้อเพลิง (จากน้ำมันดีเซล เป็นระบบไฟฟ้า) ส่วนต่างของค่าเหมาซ่อมที่ลดลง รวมทั้งต้นทุนค่าใช้จ่ายในการจ้างบุคลากรเดินรถ โดยไม่ใช้งบลงทุนเพิ่มในการดำเนินการ ไม่ต้องกู้เงินเพิ่ม และไม่เป็นภาระผูกพันในระยะยาว เนื่องจากเป็นการทำแผนงานระยะเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาที่เป็นวิกฤตของ ขสมก. โดยเป็นสัญญาระยะสั้น ในช่วงที่รอให้แผนฟื้นฟูได้รับความเห็นชอบให้ดำเนินการ

โดยแนวทางการจัดหารถโดยสารด้วยวิธีการจ้างเหมาบริการนั้น ขสมก.อ้างอิงตามหลักการจำแนกงบประมาณรายจ่ายตามงบประมาณในหมวดค่าใช้สอย ที่หมายถึงรายจ่ายเพื่อให้ได้มาซึ่งบริการ (ค่าจ้างเหมาบริการ เพื่อให้ผู้รับจ้างทำการอย่างหนึ่งอย่างใดซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของผู้รับจ้าง แต่มิใช่เป็นการประกอบ ดัดแปลง ต่อเติมหรือปรับปรุง ครุภัณฑ์ที่ดินและสิ่งก่อสร้าง) ตามหนังสือของสำนักงบประมาณ ที่ นร 0704/ว 33 ลงวันที่ 18 มกราคม 2553

อย่างไรก็ดี ภายใต้ขอบเขตของการดำเนินงานในโครงการนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเดินรถและลดมลภาวะในเขตเมืองรวมทั้งการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของ ขสมก. ซึ่งมีความต้องการรถโดยสารประจำทาง ประมาณ 200 คัน โดยไม่ใช้งบลงทุน เพราะไม่เป็นรายจ่ายเพื่อให้เกิดสินทรัพย์ถาวร จึงไม่เข้าข่ายดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติเกี่ยวกับงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2563 ประกอบกับ มาตรา 7 (5) แห่ง พ.ร.บ.สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2561

และจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้ ขสมก.เร่งรัดการดำเนินการตามมติการประชุม คนร. และทุกข้อสังเกตในที่ประชุมให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุดเพื่อให้สามารถรองรับการให้บริการแก่ประชาชนให้มีประสิทธิภาพและให้ประชาชนได้รับความพึงพอใจอย่างสูงสุด ทั้งในประเด็นการปรับปรุงแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และการขอคำปรึกษาหารือกับสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ให้มีความโปร่งใส ชัดเจน ตรวจสอบได้ ให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัดต่อไป

ปัจจุบัน ขสมก.มีรถโดยสารประจำทางอยู่ 2,885 คัน และมีเส้นทางให้บริการจำนวน 107 เส้นทาง และอยู่ระหว่างการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เนื่องจากที่ผ่านมา ขสมก.ประสบปัญหาการขาดทุนจากต้นทุนการให้บริการไม่สอดคล้องกับรายได้ที่ได้รับทำให้มีภาระหนี้สินผูกพันต่อเนื่อง ประมาณ 124,000 ล้านบาท และรถโดยสารประจำทางของ ขสมก.ที่มีอยู่มีสภาพชำรุดทรุดโทรม ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงและดูแลรักษาจำนวนมาก ประมาณ 1,600 ล้านบาทต่อปี

ประกอบกับตามหลักเกณฑ์การบรรจุรถโดยสารประจำทางเพื่อขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบการจากกรมการขนส่งทางบกนั้นกำหนดให้ต้องนำรถใหม่หรือรถที่จดทะเบียนไว้ไม่เกิน 2 ปี เพื่อบรรจุในใบอนุญาตดังกล่าวภายในระยะเวลา 1 ปี นับจากวันที่ได้รับใบอนุญาตประกอบการ ส่งผลให้ ขสมก.มีความจำเป็นต้องจัดหารถโดยสารประจำทางอย่างเร่งด่วน เพราะไม่มีรถใหม่บรรจุตามเงื่อนไขดังกล่าว ประกอบกับหากไม่สามารถนำรถไปบรรจุได้ทันภายในระยะเวลากำหนดอาจส่งผลให้ ขสมก.เสียสิทธิการเป็นผู้ประกอบกิจการเดินรถอันเป็นภารกิจหลักขององค์การ รวมทั้งไม่สามารถให้บริการประชาชนได้อย่างเท่าเทียมทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มคนส่วนใหญ่ที่ใช้บริการรถโดยสารประจำทางของ ขสมก.


กำลังโหลดความคิดเห็น