“พาณิชย์” จัดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในรูปแบบออนไลน์ ก่อนจัดงานเต็มรูปแบบเดือน ก.ย. 65 เตรียม 3 ไฮไลต์ นำผู้ประกอบการกว่า 300 รายจัดแสดงร้านค้าออนไลน์เปิดให้ผู้ซื้อ ผู้นำเข้า เลือกชม ชอป จัดเจรจาจับคู่ธุรกิจกว่า 400 คู่ คาดยอดขายไม่ต่ำกว่า 570 ล้าน และปิดท้ายด้วยสัมมนาทิศทางอุตสาหกรรม แนวโน้มตลาด
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ หรือ Bangkok Gems and Jewelry Fair (BGJF) ในรูปแบบ BGJF Virtual Trade Fair 2022 ระหว่างวันที่ 13-17 มิ.ย. 2565 ผ่านแพลตฟอร์ม www.bgjf-vtf.com ว่า การจัดงานรูปแบบออนไลน์ครั้งนี้ถือเป็นการนำร่องก่อนการจัดงานรูปแบบออฟไลน์ในเดือน ก.ย. 2565 โดยถือเป็นการจัดครั้งที่ 3 หลังจากได้ปรับรูปแบบการจัดงาน BGJF มาเป็นงานแสดงสินค้าเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2563 ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งครั้งนี้มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับเช่นเดียวกัน และจะช่วยในการกระตุ้นการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทยได้เพิ่มมากขึ้น
สำหรับการจัดงานครั้งนี้มี 3 กิจกรรมไฮไลต์ ได้แก่ 1. การจัดหน้าร้านค้าของผู้ประกอบการ (Virtual Store) โดยมีผู้ประกอบการชาวไทยเข้าร่วมกว่า 300 บริษัท เปิดโอกาสให้ผู้ซื้อและผู้นำเข้าที่สนใจสามารถเข้าชมสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทยผ่านทางออนไลน์ 2. การจับคู่เจรจาธุรกิจออนไลน์ (Online Business Matching) โดยคาดว่าจะเกิดการจับคู่ธุรกิจออนไลน์ไม่น้อยกว่า 400 คู่ ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสสำหรับการค้าอัญมณีและเครื่องประดับผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อตอบโจทย์การค้าแบบ New Normal 3. การสัมมนาออนไลน์ในหัวข้อเกี่ยวกับอุตสาหกรรมสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้เรียนรู้แนวโน้มตลาด รับฟังข้อคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญในวงการอัญมณีและเครื่องประดับ รวมทั้งสร้างเครือข่ายภายในแพลตฟอร์มระหว่างที่มีการเจรจาการค้าแบบเรียลไทม์
“การจัดงานในรูปแบบออนไลน์เสมือนจริงครั้งนี้คาดว่าจะมีผู้ซื้อ ผู้นำเข้าจากภูมิภาคต่างๆ เช่น ยุโรป แอฟริกา เอเชีย โอเชียเนีย ตะวันออกกลาง อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ มาร่วมในการเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการไทย ซึ่งจะเกิดมูลค่าการสั่งซื้อไม่น้อยกว่า 570 ล้านบาท” นายภูสิตกล่าว
ส่วนการจัดงาน Bangkok Gems and Jewelry Fair อย่างเต็มรูปแบบ ในวันที่ 7-11 ก.ย. 2565 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี หลังเว้นจากการจัดงานจากผลกระทบของสถานการณ์โควิด-19 โดยกรมฯ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2565 ที่ผ่านมา เพื่อร่วมกำหนดแนวคิดและวิสัยทัศน์หลักในการจัดงาน BGJF ตลอดจนสร้างภาพลักษณ์และประชาสัมพันธ์งาน BGJF ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยใช้เครือข่ายที่แต่ละหน่วยงานมีอยู่ในการขับเคลื่อน โดยขณะนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างประเทศที่คาดว่าจะเข้าร่วมงานกว่า 700 ราย และได้รับการตอบรับจากผู้ซื้อ ผู้นำเข้า และผู้ชมงานจากทั่วโลกที่จะเดินทางมาร่วมงานกว่า 10,000 ราย ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นงานแสดงสินค้าที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก คาดว่าจะมีมูลค่าการสั่งซื้อทันทีและภายในงานไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท
ทั้งนี้ กรมฯ มั่นใจว่าเป้าหมายการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในปี 2565 ที่ตั้งไว้ที่มูลค่า 234,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จะทำได้ตามเป้าหมาย ส่วนสถานการณ์ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำไม่ขึ้นรูป) ในช่วง 3 เดือนของปี 2565 (ม.ค.-มี.ค.) มีมูลค่า 62,546 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55% ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดีมาก