“สุวรรณภูมิ” แก้รอคิวเช็กอินนาน เปิด 318 เคาน์เตอร์ล่วงหน้า 3 ชม.เผื่อเวลาตรวจเอกสารเพิ่ม ประสานสายการบินใช้ระบบ “เช็กอิน-โหลดกระเป๋า-ตรวจบัตรโดยสาร” อัตโนมัติเต็มพิกัด เผยล่าสุดผู้โดยสารแตะ 7 หมื่นคน/วัน คาดไฮซีซัน ต.ค.นี้ถึง 1 แสนคน/วัน
นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยถึงความพร้อมในการให้บริการผู้โดยสารขาออก ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่า จากที่ ศบค.ได้มีการผ่อนคลายมาตรการเดินทาง ส่งผลให้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมาทำให้มีผู้โดยสารเดินทางผ่านเข้า-ออกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนหน้าที่ยังไม่ผ่อนคลายมาตรการเดินทางของรัฐบาล โดยในเดือน มิ.ย. 2565 จะมีปริมาณเที่ยวบินประมาณ 460 เที่ยวบิน/วัน แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 240 เที่ยวบิน/วัน เที่ยวบินภายในประเทศ 220 เที่ยวบิน/วัน มีผู้โดยสารเฉลี่ย 7 หมื่นคน/วัน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 4.2 หมื่นคน/วัน และภายในประเทศ 2.8 หมื่นคน/วัน
ทั้งนี้ จำนวนผู้โดยสารในปัจจุบันเพิ่มขึ้นจากช่วงเดือน เม.ย.ที่มีประมาณ 3 หมื่นคน/วัน ส่งผลทำให้บางช่วงเวลาเกิดความแออัดภายในอาคารผู้โดยสาร โดยเฉพาะบริเวณเคาน์เตอร์เช็กอิน และคาดว่าผู้โดยสารจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงฤดูท่องเที่ยว (High Season) ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2565 จะถึงระดับ 1 แสนคน/วัน
นายกิตติพงศ์กล่าวว่า ปัจจุบันสนามบินสุวรรณภูมิได้เปิดใช้งานเคาน์เตอร์เช็กอินครบทั้ง 318 เคาน์เตอร์ รวมถึงมีการติดตั้งระบบเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (Common Use Self - Service : CUSS) 196 เครื่อง ซึ่งปัจจุบันหลายสายการบินเริ่มใช้งานแล้ว ลดการรอคิว และติดตั้งระบบเครื่องรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (CUBD) 42 เครื่อง รองรับการให้บริการเช็กอินได้อย่างเพียงพอ รวมไปถึงจุดตรวจค้นซึ่งได้ประสานกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ในการเตรียมบุคลากรรองรับการเดินทางทั้งโซน1, 2 และโซนพรีเมียมสำหรับผู้โดยสารชั้น 1 และชั้นธุรกิจ ที่คาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น
สำหรับกรณีที่มีผู้โดยสารรอคิวเช็กอินบัตรโดยสารนั้น ทั้งสนามบิน สายการบินและส่วนที่เกี่ยวข้องได้ประสานเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอีก โดยขณะนี้ผู้ที่จะเดินทางออกนอกประเทศจะต้องแสดงเอกสาร อาทิ เอกสารการฉีดวัคซีน ทำให้สายการบินใช้เวลาเช็กอินเพิ่มจากเดิม จึงขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทาง เพราะเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องตรวจสอบเอกสารโดยละเอียดเพื่อไม่ให้มีปัญหาในการเข้าประเทศปลายทางของผู้โดยสาร โดยจะให้สายการบินเปิดเคาน์เตอร์ตรวจบัตรโดยสารล่วงหน้า 3 ชม.
“เรื่องนี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม มีความห่วงใยและกำชับ ทสภ.เร่งแก้ปัญหา ซึ่งได้ประสานสายการบิน และหน่วยงานต่างๆ ได้เตรียมพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก และจัดเพิ่มบุคลากรมากขึ้น ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ผู้โดยสารต่อแถวรอคิวเช็กอินนานอีก” นายกิตติพงศ์กล่าว
ด้านนายธีระ บัวศรี ประธานคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบินกรุงเทพ (BKK AOC) กล่าวว่า AOC ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกสายการบินทั้งสิ้น 89 สายการบิน และสมาชิกสมทบที่เป็นบริษัทสนับสนุนธุรกิจการบินทั้งด้านให้บริการผู้โดยสารและอากาศยานอีก
16 บริษัท ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2565 มีการผ่อนปรนเงื่อนไขเข้าประเทศ ทุกสายการบินกลับมาให้บริการ มีการปรับตารางการบิน ปรับเพิ่มความถี่ ปรับขนาดเครื่องบิน เพื่อรองรับการเดินทางเพิ่ม สอดรับกับการผ่อนปรนเงื่อนไขความมั่นคงทางชีวภาพ (Biosecurity) ของการเข้าประเทศไทยและประเทศปลายทาง และสายการบินมีการใช้ระบบการเช็กอินผ่านมือถือ (Mobile Check-in and Mobile Boarding Pass) กลับมาใช้ในเส้นทางระหว่างประเทศ
โดยได้ปรับเงื่อนไขของความมั่นคงทางชีวภาพเข้าไปด้วย เช่น เอกสารการฉีดวัคซีน
นอกจากนี้ สนามบิน และผู้ให้บริการได้ดำเนินการปรับกายภาพของห้องพักรอผู้โดยสารก่อนขึ้นเครื่อง (Boarding Gate Hold Room) ให้สามารถใช้เป็น Common Use Baording Gate เพื่อเพิ่มพื้นที่พักรอผู้โดยสารและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารในการผ่านเข้า-ออกพื้นที่พักคอยได้สะดวกมากขึ้น พร้อมทั้งยังได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องตรวจสอบบัตรที่นั่งก่อนขึ้นเครื่องบินแบบอัตโนมัติ หรือที่เรียกว่า Self Validation and Self-Boarding Gate System เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในแก่ผู้โดยสารที่มีความประสงค์จะเดินเข้าเครื่องเองโดยลดการสัมผัส ซึ่งอยู่ระหว่างทดสอบเครื่องตรวจสอบบัตรที่นั่งก่อนขึ้นเครื่องบินแบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มความรวดเร็ว และอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารที่จะเดินเข้าเครื่องบินด้วยตนเองโดยลดการสัมผัสกับพนักงาน เพียงแตะบอร์ดดิ้งพาสที่หน้าประตูทางขึ้นเครื่องเท่านั้น คาดว่าจะเปิดใช้งานเป็นทางการไตรมาสที่ 3 (ก.ค.-ก.ย.65) เป็นต้นไป จะทำให้ผู้โดยสารเดินทางได้สะดวก รวดเร็วมากขึ้น ตามเงื่อนไขของความมั่นคงของแต่ละประเทศและความมั่นคงทางชีวภาพที่ทางกระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ตามบริบทการเดินทางแบบไร้รอยต่อ (Seamless Travel) ของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association) หรือ ไออาตา (IATA)