กระทรวงพลังงานเผยเร็วๆ นี้จะมีการหารือโรงกลั่นน้ำมันเพื่อหาข้อเท็จจริงค่าการกลั่นพุ่งสูงเกินเหตุหรือไม่ หลัง กบง.ตั้งคณะอนุกรรมการฯ ศึกษาแล้ว คาดได้ข้อสรุปภายใน มิ.ย.นี้
นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน เป็นประธาน ได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาพิจารณาเกี่ยวกับค่าการกลั่นน้ำมันแล้วขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูล โดยเร็วๆ นี้จะหารือกับกลุ่มโรงกลั่นเพื่อพิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับต้นทุนภาพรวม คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนมิถุนายนนี้
"เวลานี้ธุรกิจน้ำมันเป็นการค้าแบบเสรี เราไม่ได้ควบคุมค่าการกลั่นแต่จะใช้วิธีมอนิเตอร์บนสมมติฐานหลักๆ ของส่วนต่างราคาน้ำมันดิบกับสำเร็จรูป ซึ่งหากดูยอมรับว่าค่าการกลั่นอาจจะสูงเกินไป แต่ก็ต้องมาดูข้อเท็จจริง เพราะเข้าใจว่าช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาค่าการกลั่นมีการปรับตัวสูงขึ้นมากจากที่เคยอยู่เฉลี่ยที่ 2 บาท/ลิตรมาเป็นราว 5 บาท/ลิตร แต่สมมติฐานที่ทางกระทรวงพลังงานติดตามอาจจะต่างกับโรงกลั่นเพราะโรงกลั่นแต่ละแห่งมีการนำเข้าน้ำมันมาจากหลายแหล่งไม่เท่ากัน ประกอบกับช่วงที่ผ่านมาน้ำมันดิบตลาดโลกราคาผันผวนจากภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครนทำให้มีค่าพรีเมียมสูงขึ้นเพราะมีเรื่องปัจจัยเสี่ยงทั้งหายาก และการขนส่งที่มีค่าใช้จ่ายที่แพง" นายวัฒนพงษ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าหากอ้างอิงจากการพิจารณาค่าการกลั่นเบื้องต้นจากรัฐบนสมมติฐานเดิมมีโอกาสที่ค่าการกลั่นจะลดลงมาได้ระดับหนึ่งและจะทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันปรับลดลงมา แต่ทั้งนี้จะต้องมาพิจารณาจากต้นทุนของแต่ละโรงกลั่นประกอบและรวมถึงแต่ละช่วงเวลาว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร จึงยังไม่อาจตอบได้ชัดเจนว่าจะสามารถนำมาสู่การลดราคาขายปลีกได้หรือไม่ อย่างไร ซึ่งในคณะอนุกรรมการฯ ที่พิจารณาเรื่องนี้ยังมีตัวแทนจากกระทรวงพาณิชย์ที่เป็นหน่วยงานหลักในการดูแลราคาขายปลีกและต้นทุนต่างๆ ที่จะเข้ามาช่วยตรวจสอบเช่นกัน