“มูบาดาลา ปิโตรเลียม” ทำสถิติผลิตปิโตรเลียมแตะ 500,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันเป็นครั้งแรกนับแต่ก่อตั้ง หลังจากรับรู้การผลิตในแหล่งเปกาการ์ในประเทศมาเลเซีย และถือหุ้น 22% ในแหล่งทามาร์นอกชายฝั่งอิสราเอล ดันกำลังผลิตเพิ่มขึ้น 22% จากปี 64 โดยเป็นสัดส่วนการผลิตก๊าซฯ คิดเป็น 70%
ชีค มอนซัวร์ มูฮัมหมัด อัล ฮาเหม็ด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มูบาดาลา ปิโตรเลียม ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานระดับสากลซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่อาบูดาบี เผยว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการผลิต 500,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การก่อตั้ง นับเป็นการเพิ่มกำลังผลิตถึงร้อยละ 22 จากปริมาณการผลิตเมื่อปี 2564
โดยก่อนหน้าความสำเร็จในครั้งนี้ บริษัทฯ ยังมีโครงการพัฒนาครั้งสำคัญต่างๆ เช่น การถือสิทธิ์ร้อยละ 22 ในแหล่งผลิตปิโตรเลียมทามาร์ในเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออกซึ่งเป็นแหล่งผลิตปิโตรเลียมนอกชายฝั่งของประเทศอิสราเอล
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาแหล่งผลิตปิโตรเลียมเปกาการ์ในประเทศมาเลเซียยังประสบความสำเร็จในการผลิตก๊าซธรรมชาติ 500 ล้านลูกบาศก์ฟุต และผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว 16,000 บาร์เรลต่อวัน หลังจากที่บริษัทฯ ได้ประกาศความสำเร็จในการผลิตก๊าซธรรมชาติที่เปกาการ์เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาซึ่งจะเป็นแหล่งผลิตปิโตรเลียมหลักให้แก่ปิโตรนาส แอลเอ็นจี คอมเพล็กซ์ในเมืองบินตูลู รัฐซาราวักของประเทศมาเลเซีย
ทั้งสองโครงการส่งเสริมความสำเร็จครั้งสำคัญให้แก่ปริมาณการผลิตทั้งหมดของบริษัทฯ และเสริมนโยบายที่มุ่งเน้นการผลิตก๊าซธรรมชาติของบริษัทฯ ซึ่งตรงกับเป้าหมายในการเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน โดยทั้งหมดนี้ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถผลิตก๊าซธรรมชาติได้ในสัดส่วนเกือบร้อยละ 70 จากการดำเนินงานทั้งหมด
นอกจากนี้ สำหรับบริษัท มูบาดาลา ปิโตรเลียม (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อเร็วๆ นี้ยังประสบความสำเร็จจากแหล่งผลิตปิโตรเลียมจัสมินและบานเย็นสามารถผลิตน้ำมันดิบสะสมได้ถึง 85 ล้านบาร์เรล อีกทั้งแหล่งผลิตปิโตรเลียมมโนราห์และนงเยาว์สามารถผลิตน้ำมันดิบสะสมได้ถึง 20 ล้านบาร์เรล นับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญ
“นโยบายในการมุ่งเน้นการผลิตก๊าซธรรมชาติเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นในพื้นที่ปฏิบัติงานหลักของเรา ซึ่งเราได้เพิ่มคุณค่าและสร้างความสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้เสียมาอย่างยาวนาน และยังนับเป็นสะพานเชื่อมต่อไปสู่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานอีกด้วย ผมรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติของเราประสบความสำเร็จครั้งสำคัญในครั้งนี้”
