กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เดินหน้ายกระดับอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยที่ทำจากเส้นใยและผลิตภัณฑ์จากใยกัญชง สู่สินค้ามูลค่าสูง เปิดตัวข้อมูลแนวโน้มตลาด โอกาสทางการค้า ทิศทางแฟชั่น ผ่านรายงาน “Hemp Market Report Series for Textiles Industry” เพื่อให้ผู้ประกอบการนำไปใช้ในการวางแผนการผลิต การทำตลาด
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้จัดทำ “โครงการพัฒนาและส่งเสริมการส่งออกสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มที่ทำจากเส้นใยและผลิตภัณฑ์จากใยกัญชง เพื่อรองรับความต้องการของตลาดโลก” เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าที่มีมูลค่าสูงต่ออุตสาหกรรมสิ่งทอและการเพิ่มมูลค่าสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ของไทยจากเส้นใยกัญชง ผ่านการสนับสนุนข้อมูลด้านตลาดเชิงลึกและแนวทางการพัฒนาธุรกิจและสินค้าจากกัญชงให้ผู้ประกอบการไทยพัฒนาศักยภาพและแข่งขันได้ในระดับสากล ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่มุ่งเน้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจและเร่งรัดการส่งออกด้วยยุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” ภายใต้โมเดลเศรษฐกิจ BCG Model เพื่อพัฒนาศักยภาพ SMEs ไทย ตลอดจนเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ล่าสุดได้จัดทำข้อมูลแนวโน้มตลาดและโอกาสในการส่งเสริมการค้าสำหรับสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มที่ทำจากเส้นใยและผลิตภัณฑ์จากใยกัญชง โดยได้ดำเนินการศึกษา วิเคราะห์จัดทำข้อมูลเป็นชุดรายงานในชื่อ “Hemp Market Report Series for Textiles Industry” แบ่งเป็น 3 ฉบับ ได้แก่ ฉบับที่ 1 Hemp Market Report ประกอบด้วยเนื้อหาการวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดกัญชงของโลก การศึกษาตลาดศักยภาพของไทย และการเตรียมความพร้อมอุตสาหกรรมสิ่งทอของไทยสู่การเจาะตลาดโลกด้วยการเพิ่มมูลค่าจากกัญชง ฉบับที่ 2 Hemp Business เป็นการศึกษาการผลิต การประกอบธุรกิจการค้า และการส่งออก ผ่านกรณีศึกษา การวิเคราะห์ปัญหาอุปสรรค และโอกาสในการลงทุน ตลอดจนตัวอย่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในระดับอุตสาหกรรม และฉบับที่ 3 Hemp Design แนวทางการออกแบบสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์จากกัญชงให้ตอบโจทย์ตลาดเป้าหมายและเทรนด์ BCG Economy ของโลก
“ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการสิ่งทอและผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ที่เกี่ยวเนื่องของไทย ถือเป็นก้าวใหม่ที่สำคัญในการเชื่อมโยงภาคการผลิตสู่โอกาสทางการค้าในตลาดโลก โดยผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดชุดรายงานทั้ง 3 ฉบับ ได้ที่เว็บไซต์กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ https://www.ditp.go.th/ditp_web61/article_sub_view.php?filename=contents_attach/762786/762786.pdf&title=762786&cate=819&d=0”นายภูสิตกล่าว
ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ผลักดันให้กัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ที่มีศักยภาพ และมีการส่งเสริมการนำมาใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ และกรมฯ ได้เล็งเห็นศักยภาพและโอกาสในการส่งเสริมและผลักดันกัญชงสู่สินค้าสิ่งทอและผลิตภัณฑ์เพื่อการส่งออก เนื่องจากกัญชงเป็นเส้นใยธรรมชาติที่มีคุณสมบัติพิเศษมากมาย และมีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถตอบโจทย์แนวโน้มตลาดโลกได้เป็นอย่างดี โดยตลาดสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มที่ทำจากเส้นใยและผลิตภัณฑ์จากใยกัญชง มีขนาดตลาดมูลค่ากว่า 1.42 แสนล้านบาท และคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อไปอีกกว่า 22.4% ภายในปี 2570 เนื่องจากความต้องการที่สูงขึ้นของเส้นใยและน้ำมันกัญชง โดยมีนำมาแปรรูปในระดับอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอ กลุ่มอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง เป็นต้น
ขณะเดียวกัน กรมฯ ได้มีการจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ การพัฒนาต้นแบบสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มที่ทำจากเส้นใยและผลิตภัณฑ์จากใยกัญชง เพื่อรองรับความต้องการของตลาดโลก การสัมมนาให้ความรู้ผู้ประกอบการ เรื่อง ตลาดและการประกอบธุรกิจด้านการค้าสำหรับสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มที่ทำจากเส้นใยและผลิตภัณฑ์จากใยกัญชง และการจัดนิทรรศการแสดงผลงานต้นแบบสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์จากกัญชง รวมทั้งการจัดทำข้อมูลแนวโน้มตลาดและโอกาสในการส่งเสริมการค้าสำหรับสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มที่ทำจากเส้นใยและผลิตภัณฑ์จากใยกัญชง
สำหรับสถานการณ์การส่งออกสินค้าสิ่งทอ (ไม่รวมเคหะสิ่งทอ) ในช่วง 3 เดือนของปี 2565 (ม.ค.-มี.ค.) มีมูลค่า 1,724.71 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 13.75% โดยไทยส่งออกไปยังตลาดสำคัญได้เพิ่มขึ้น ทั้งสหรัฐฯ ญี่ปุ่น เวียดนาม อินโดนีเซีย บังกลาเทศ กัมพูชา เมียนมา อินเดีย และเยอรมนี โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญ เช่น เครื่องนุ่งห่ม 601.78 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 34.89% ผ้าผืนและด้าย 552.38 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 32.03% และสิ่งทออื่นๆ ได้แก่ เส้นใยประดิษฐ์ ผ้าปักและผ้าลูกไม้ ตาข่ายจับปลา ผ้าแบบสำหรับตัดเสื้อและผ้าที่จัดทำแล้ว ผ้าคลุมไหล่ ผ้าพันคอ 570.55 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 33.08%