ประธานบอร์ด รฟท.ยกคณะลงพื้นที่สถานีย่านสถานีอุดรธานี-นาทา-หนองคาย เร่งเครื่องแก้รอยต่อรองรับการเติบโตการขนส่งสินค้าผ่านแดนระหว่างไทย-สปป.ลาว เปิดเช่าพัฒนาสถานีหนองคาย 4 แปลง ส่วน CY นาทา เร่งขั้นตอนจ้างที่ปรึกษาวางกรอบ PPP
เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2565 นายจิรุตม์ วิศาลจิตร ประธานกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นายอำนวย ปรีมนวงศ์ กรรมการการรถไฟฯ พร้อมด้วย นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟฯ และผู้บริหารการรถไฟฯ เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการพัฒนาพื้นที่ย่านสถานีอุดรธานี สถานีหนองตะไก้ สถานีนาทา และสถานีหนองคาย เพื่อติดตามความก้าวหน้าแผนการดำเนินโครงการก่อสร้างเชื่อมทางรถไฟ จากสถานีหนองตะไก้ ถึงพื้นที่ ICD นิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี และแผนพัฒนาย่านสถานีหนองคาย รวมทั้งแผนพัฒนาย่านเปลี่ยนถ่ายสินค้า (CY) สถานีนาทา เพื่อเพิ่มการอำนวยความสะดวกระบบขนส่งโลจิสติกส์ รองรับการเติบโตทางการค้า การลงทุนของไทย และสปป.ลาวในอนาคต
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร ประธานบอร์ด รฟท. เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ พร้อมรับฟังการบรรยายโครงการก่อสร้างทางรถไฟเพื่อใช้เป็นจุดเชื่อมต่อการขนส่งสินค้า เพื่อสนับสนุนเขตเศรษฐกิจพิเศษ การท่องเที่ยวและพัฒนาพื้นที่ จากสถานีรถไฟหนองตะไก้ ไปยังพื้นที่โครงการนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี ระยะทาง 3.702 กิโลเมตร โดยมีพื้นที่อยู่ติดกับเส้นทางรถไฟ ซึ่งทางโครงการได้เสนอให้สร้างทางรถไฟจากสถานีหนองตะไก้ไปจนถึงเขตพื้นที่ของโครงการ ระยะทางประมาณ 2.802 กิโลเมตร ส่วนที่เหลือโครงการจะเป็นผู้รับดำเนินการลงทุนสร้างทางรถไฟ รองรับการเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาต่อไป
จากนั้นคณะได้เดินทางต่อไปยังสถานีนาทา และสถานีหนองคาย รับฟังการบรรยายการขนส่งสินค้าทางรถไฟระหว่างประเทศไทย-สปป.ลาว ซึ่งปัจจุบันมีการขนส่งสินค้าหลากหลายชนิด เช่น ข้าวมอลต์ ยางมะตอย เม็ดพลาสติก สินค้าอุปโภค และผลไม้ รวมทั้งยังได้ติดตามความก้าวหน้าแผนพัฒนาการขนส่งสินค้าทางราง ซึ่ง รฟท.ได้มีการพัฒนาพื้นที่ย่านสถานีหนองคาย และ CY สถานีนาทา รวมถึงการเพิ่มขบวนรถสินค้า ทั้งรถจักร และรถพ่วง
ทั้งนี้ เพื่อให้สอดรับกับยุทธศาสตร์การพัฒนาโลจิสติกส์ของประเทศ ในการสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ตลอดจนรองรับปริมาณการขนส่งสินค้าข้ามแดนไทย-สปป.ลาว ที่มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังการเปิดให้บริการรถไฟ สปป.ลาว-จีน
@ จัดสรรพื้นที่ย่านสถานีหนองคายให้เอกชนเช่าบริหาร 4 แปลง
สำหรับการพัฒนาย่านสถานีหนองคาย ปัจจุบันกรมศุลกากรได้ออกประกาศเป็นพื้นที่ตรวจปล่อยแล้วจำนวน 46,800 ตารางเมตร โดย รฟท.อยู่ระหว่างพิจารณาแบ่งพื้นที่คงเหลือจากการใช้เป็นพื้นที่ตรวจปล่อยเป็น 6 แปลง แปลงละ 16,640 ตารางเมตร เพื่อออกประกาศเชิญชวนให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุน 4 แปลง และกันไว้เป็นพื้นที่ส่วนกลาง 2 แปลง พร้อมกับกำหนดราคาค่าเช่าให้เป็นไปตามระเบียบการรถไฟฯ
@ เริ่มแผนพัฒนา CY นาทา แบ่ง 3 โซน ประมูล PPP
ส่วนแผนพัฒนา CY ย่านนาทา พื้นที่ 268 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของศูนย์ซ่อมบำรุงเบาที่สถานีนาทา และสามารถเชื่อมต่อกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 ด้วยถนนตัดใหม่ของกรมทางหลวงชนบท (ทช.) รวมถึงเชื่อมต่อกับศูนย์ขนส่งสินค้าทางรถบรรทุกทางด้านเหนือของพื้นที่ โดยปัจจุบัน รฟท.ได้กำหนดแผนใช้พื้นที่ของศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้า ดังนี้
- โซน A พื้นที่สำหรับกองเก็บตู้สินค้าประเภทต่างๆ (CONTAINER YARD) 120 ไร่
- โซน B พื้นที่ลานขนส่งสินค้า (TRANSSHIPMENT YARD) ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่ ราง ถนน และลานกองเก็บโดยรอบ 75 ไร่ เพื่อให้สามารถรองรับการแลกเปลี่ยนสินค้าจากรถไฟที่เข้ามาจากจีนและ สปป.ลาว รวมถึงส่งออกไปยัง สปป.ลาวและจีน พร้อมกับมีการติดตั้งเครนสำหรับยกตู้และวางตู้คอนเทนเนอร์ที่ขนลงมาวางชั่วคราว
- โซน C พื้นที่อาคารสำนักงาน โรงพักสินค้า และที่จอดรถ 73 ไร่ จะประกอบไปด้วย ส่วนที่ 1 เป็นพื้นที่สำนักงานศุลกากร และคลังสินค้าศุลกากร ส่วนที่ 2 เป็นศูนย์ปฏิบัติงานของผู้ประกอบการ เช่น ลานและอาคารตรวจสอบสินค้า อาคารเอกซเรย์รถบรรทุก เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้มาใช้บริการแบบ One Stop Service
“การพัฒนา CY นาทา รฟท.ได้คำนึงถึงความต่อเนื่องในการใช้งานภายในพื้นที่ และสามารถต่อเชื่อมกับโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าทางรถบรรทุกของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ซึ่งสถานะปัจจุบันฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้างได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาฯ ออกแบบรายละเอียดงานโยธาแล้ว รวมถึงฝ่ายบริการสินค้าได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการจ้างบริษัทปรึกษาเพื่อดำเนินการโครงการลงทุนแบบร่วมทุน (พีพีพี)”
@ปี 66 รถไฟข้ามสะพานมิตรภาพเพิ่มความถี่เป็น 8 ขบวน รองรับการขนส่ง 116,800 TEU
นายจิรุตม์กล่าวว่า นอกจากแผนพัฒนาย่านสถานีหนองคาย และการพัฒนา CY สถานีนาทาแล้ว รฟท. ยังได้ดำเนินปรับเพิ่มขบวนรถสินค้าสำหรับให้บริการ เพื่อรองรับการเติบโตทางการค้าผ่านแดนในอนาคตอีกด้วย โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ ดังนี้
- แผนระยะสั้น ปี 2564-2565 ได้เปิดให้บริการ 5 ขบวนไป-กลับ พ่วง 25 แคร่วิ่งทุกวัน มีรถจักรให้บริการ 10 คัน และรถพ่วง 350 แคร่ รองรับการขนส่งสินค้าได้ 73,000 TEU
- แผนระยะสั้น ระยะกลาง ปี 2566-2568 มีการเพิ่มขบวนรถให้บริการเป็น 8 ขบวนไป-กลับ พ่วง 25 แคร่วิ่งทุกวัน มีรถจักรให้บริการเพิ่มเป็น 16 คัน และรถพ่วง 530 แคร่ รองรับการขนส่งได้ 116,800 TEU
- แผนระยะยาว ปี 2569 เป็นต้นไป มีการเพิ่มขบวนรถให้บริการเป็น 12 ขบวนไป-กลับ พ่วง 25 แคร่วิ่งทุกวัน มีรถจักรให้บริการเพิ่มเป็น 24 คัน และรถพ่วง 794 แคร่ รองรับการขนส่งได้ 175,200 TEU
อย่างไรก็ตาม รฟท.คาดหวังว่าการพัฒนาย่านสถานีหนองคาย และ CY นาทา นอกจากจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการขนส่งสินค้าทางราง รองรับการเติบโตทางการค้าผ่านแดนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านได้แล้ว ยังเป็นการช่วยสร้างงานสร้างอาชีพ ก่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจในท้องถิ่น อีกทั้งยังสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ตามนโยบายรัฐบาลได้ในอนาคตอีกด้วย