กรมพัฒนาธุรกิจการค้าลงพื้นที่แนะนำเกษตรกร ประชาชน ใช้ประโยชน์จากกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ นำไม้ยืนต้นใช้เป็นหลักประกันขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน พร้อมเดินหน้านำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพระบบจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ อำนวยความสะดวกธุรกิจและประชาชน
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ได้นำคณะผู้บริหารและสื่อมวลชนลงพื้นที่ เดินทางไปที่วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรผลิตไม้กฤษณา จ.ระยอง ซึ่งเป็นวิสาหกิจชุมชนนำร่องที่กรมฯ ต้องการผลักดันให้เกษตรกรที่เป็นสมาชิกเร่งใช้ประโยชน์จากกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ โดยวิสาหกิจชุมชนมีสมาชิกอยู่ประมาณ 135 คน ต้นไม้ที่ปลูก คือ กฤษณา สัก มะค่า และไม้ผล คือ ทุเรียน เงาะ มังคุด สละ ซึ่งถือเป็นไม้มีค่าที่สามารถนำเป็นหลักประกันทางธุรกิจได้
ทั้งนี้ จากการพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทำให้ทราบว่า เกษตรกรและประชาชนให้ความสนใจปลูกไม้ยืนต้นบนที่ดินของตนเองมากขึ้น หลังจากทราบว่า สามารถนำไม้ยืนต้นมาเป็นหลักประกันการขอสินเชื่อเพื่อต่อยอดธุรกิจหรือใช้สอยในชีวิตประจำวัน โดยไม่จำเป็นต้องตัดต้นไม้ และเกษตรกรที่เป็นสมาชิกวิสาหกิจชุมชนฯ ก็พร้อมที่จะนำไม้ยืนต้นที่มีค่าที่ปลูกบนที่ดินกรรมสิทธิ์มาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ โดยขอทราบถึงรายละเอียดของกฎหมาย และขั้นตอนการใช้ประโยชน์จากกฎหมายฉบับนี้ เมื่อต้องการเงินทุน
ขณะเดียวกัน กรมฯ ได้ปรับวิธีการทำงาน โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาอำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจและประชาชน เพิ่มประสิทธิภาพระบบจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ เพื่อให้บริการประชาชนแบบเรียลไทม์ เช่น พัฒนาระบบการยืนยันตัวตนของผู้รับหลักประกันทั่วประเทศ จะต้องมายืนยันตัวตนที่กองทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ และในอนาคตสามารถยืนยันตัวตนเพื่อขอรับบัญชีผู้ใช้และรหัสผ่าน (Username and Password) ของผู้รับหลักประกันผ่านระบบได้ และพัฒนาระบบการแจ้งความยินยอมเป็นผู้บังคับหลักประกัน ซึ่งจะช่วยป้องกันการแอบอ้างและคุ้มครองสิทธิแก่ผู้ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้บังคับหลักประกัน เป็นต้น ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์และเห็นผลเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน
ก่อนหน้านี้ มีทรัพย์สินหลายประเภทที่สามารถนำมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจได้ เช่น กิจการ สิทธิเรียกร้อง สังหาริมทรัพย์ที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ เช่น สินค้า คงคลัง และวัตถุดิบ อสังหาริมทรัพย์ที่ผู้ให้หลักประกันประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยตรง ทรัพย์สินทางปัญญา และล่าสุดได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 5 พ.ย.2561 กำหนดให้ “ไม้ยืนต้น” เป็นทรัพย์สินที่ใช้เป็นหลักประกันได้ ทำให้ต้นไม้มีค่าที่ปลูกในที่ดิน สามารถนำมาใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจได้ จากเดิมที่การประเมินให้สินเชื่อ จะประเมินเฉพาะส่วนที่เป็นที่ดินเท่านั้น และล่าสุด มีการใช้ไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันทางธุรกิจแล้ว 137 ล้านบาท