ผู้จัดการรายวัน 360- สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย คนคลายกังวลแต่เครียดเรื่องครองชีพกลับสูงขึ้นแทน วอนรัฐช่วยแก้ปัญหาลดต้นทุนดีกว่ากระตุ้นกำลังซื้อ “เอ็กซ์โปลิงค์” มองเกมส์ MICE ถึงเวลาฟื้น ปักธงไทยฮัพเซาส์อีสเอเชีย เตรียมดึงงานใหญ่มาจัดเพิ่มอีก 2 งาน มั่นใจปีนี้รับรู้รายได้ 200 ล้านบาท จากปกติทำได้ 250 ล้านบาท มั่นใจปีหน้า MICE กลับมา 100%
นายภูษิต ศศิธรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กซ์โปลิงค์ โกลบอล เน็ทเวอร์ค จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทจัดงานไทยเฟ็กซ์มาเป็น 10ปี แต่ปีที่ผ่านมางดจัดเพราะสถานการณ์โควิด-19 และหันไปทำแบบออนไลน์แทน พบว่างานเอ็กซ์โปที่ต้องมีการเจรจาธุรกิจแบบนี้ ออนไลน์ไม่สามารถทดแทนได้ อีกทั้งยังได้มีการวางแผนปรับตัวรองรับหลังสถานการณ์คลี่คลายขึ้นด้วย จากปกติต่อปีจะมีการจัดงานในไทย 4-5 งาน โดยในปี2566 จะมีการนำงานเอ็กซ์โประดับโลกจากทางโคโลญแมสเซ่ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนจากเยอรมัน มาจัดในไทยอีก 1-2 งาน ได้แก่ งานเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน และงานอินชัวรันไฟแนนเชียลอีก 1 งาน ซึ่งมองว่าไทยมีศักยภาพเป็นศูนย์กลางการจัดงานของอินโดไชน่าและเซาทส์อีสต์เอเชียได้
เห็นได้จากการงาน THAIFEX-Anuga Asia 2022 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 24-28 พฤษภาคม 2565 นั้น เบื้องต้นพบว่า ได้รับการตอบรับมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยมีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้ากว่า 1,200 ราย ผู้ซื้อถึง 2,500 ราย และผู้เข้าชมงานกว่า 40,000 คน กับการสร้างเครือข่ายแบบพบหน้ากันเพื่อเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของธุรกิจ หรือตลอดการจัดงานคาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดจากการเจรจาธุรกิจไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท และเจรจาในแบบออนไลน์อีก 400 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมตลาด MICE ทางทีเส็ปเคยให้ข้อมูลว่ามีมูลค่านับแสนล้านบาท ในส่วนของเอ็กซ์โปลิงค์ เคยทำรายได้สูงสุด 250 ล้านบาท ส่วนในปีนี้เชื่อว่าจะทำได้ 200 ล้านบาท และในปีหน้าจากสถานการณ์ตลาด MICE ที่มั่นใจว่าจะกลับมา 100% คาดว่ารายได้ของบริษัทจะกลับมาเท่าเดิมหรือมากกว่าเดิมจากการเพิ่มจำนวนการจัดงานที่มากขึ้น โดยรายได้กว่า 60% มาจากการจัดงานไทยเฟ็กซ์ ที่เหลือมาจากการจัดงานในต่างประเทศ และบริหารการจัดงานให้กัน
นายภูษิต กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม พบว่า ผู้บริโภคคลายกังวลเรื่องโควิด-19 ลงไปมากแล้ว แต่กังวลเรื่องสงครามรัสเซีย-ยูเครน และเรื่องพลังงาน หรือราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นแทน และอีกหลายๆประเทศเริ่มกังวลเรื่องอาหาร โดยมีหลายสิบประเทศระงับการส่งออกอาหารบ้างแล้ว ซึ่งมีทั้งผลดีและผลเสียกับประเทศไทย เช่น มาเลเซียยกเลิกส่งออกสินค้าอาหารบางอย่าง ทำให้สิงคโปร์ซึ่งเป็นลูกค้าหันมาสั่งซื้อในไทยแทน เป็นต้น ส่วนของไทยยังต้องมองอีกสักระยะว่าจะมีมาตรการเรื่องการส่งออกเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอาหารว่าจะเป็นอย่างไร ขณะที่ปัจจุบันยังไม่มีปัญหา เห็นได้จากการจัดงานไทยเฟ็กซ์ครั้งนี้ มีเม็ดเงินสะพัดจากเดิมเพิ่มขึ้นถึง 10%
“อย่างไรก็ตามในแง่ของผู้ประกอบการไม่ได้กังวลในการดำเนินธุรกิจ เพราะบรรยากาศกลับมาฟื้นตัวแล้ว แต่กังวลในเรื่องของต้นทุนด้านพลังงานมากกว่า เกมส์วันนี้เปลี่ยน จึงอยากให้ภาครัฐให้ความช่วยเหลือในเรื่องของการลดต้นทุนด้านพลังงาน หรือราคาน้ำมันเป็นหลัก มากกว่ามาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ เพราะผู้บริโภคต้องแบกรับค่าครองชีพที่สูงขึ้นจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน” นายภูษิต กล่าวทิ้งท้าย
อนึ่งบริษัท เอ็กซ์โปลิงค์ โกลบอล เน็ทเวอร์ค จำกัด เป็นผู้นำตลาดด้านจัดงานแสดงนิทรรศการและการประชุมระดับนานาชาติของไทย อาทิ งาน Logimat Intelligent Warehouse, งาน Victam Asia และงาน Kind + Jugend Asean โดยเอ็กซ์โปลิงค์ ได้เปิดทำการมาตั้งแต่ปี 2545 และมีโคโลญแมสเซ่ รัฐวิสาหกิจจากเมืองโคโลญ ประเทศเยอรมัน เข้าถือหุ้น 49% และทางนายภูษิต ถือหุ้น 51%.