อีอีซีเชื่อมสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น รุกต่อยอดความร่วมมือ มิตซูบิชิ อีเล็คทริค และพันธมิตรเครือข่าย เร่งดึงนักลงทุนขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดิจิทัล ระบบออโตเมชัน คู่พัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว BCG เดินหน้าพัฒนาโรงงานอัจฉริยะกว่า 10,000 แห่ง พัฒนาทักษะบุคลากร 50,000 คน เกิดการลงทุนไม่น้อยกว่า 50,000 ล้านบาทใน 3 ปี ยกระดับอีอีซีสู่พื้นที่ลงทุนนวัตกรรมขั้นสูง เสริมแกร่งเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้คนไทย สร้างคุณภาพชีวิตยั่งยืน
วันนี้ (20 พ.ค. 2565) นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และ นายนาชิดะ คาซูยะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ร่วมกันกล่าวแสดงความยินดีในงาน EEC Connecting Thailand and Japan Collaboration Forum 2022 “Digitalizing & Decarbonizing in Manufacturing” ในโอกาสฉลองครบรอบ 135 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงาน คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค คอร์ปอเรชั่น จำกัด EEC Automation Park และเครือข่ายพันธมิตรภาคเอกชนไทย-ญี่ปุ่น ร่วมจัดงาน
ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการอีอีซี กล่าวเปิดงาน ร่วมกับ นายอัทสึชิ ทาเคทานิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) นายวิเชียร งามสุขเกษมศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค แฟคตอรี่ ออโตเมชั่น ประเทศไทย ดร.อภิชาต ทองอยู่ ประธานคณะทำงานประสานงานด้านการพัฒนาบุคลากร (EEC HDC) และ ดร.ไพบูลย์ ลิ้มปิติพานิชย์ ผู้อำนวยการ EEC Automation Park พร้อมด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐ เอกชนที่เกี่ยวข้องร่วมเสวนา และมีผู้ประกอบการไทย และญี่ปุ่น เข้าร่วมภายในงาน และออนไลน์รวมกว่า 500 ราย
ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการอีอีซี กล่าวว่า การจัดงานฯ ครั้งนี้จะพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ไทย-ญี่ปุ่น และต่อยอดความสัมพันธ์ที่เข้มแข็งของภาคเอกชนญี่ปุ่นในพื้นที่อีอีซีที่มีมายาวนานเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ เชื่อมโยงด้านการผลิต (Supply Chain) ร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว BCG ส่งเสริมการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล และความร่วมมือด้านสาธารณสุขผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศหลังสถานการณ์โควิด-19 รวมทั้ง กรอบความร่วมมือพัฒนาอนุภูมิภาคและภูมิภาค เช่น กรอบความร่วมมือแม่โขง-ญี่ปุ่น
ทั้งนี้ อีอีซีได้ทำงานร่วมกับหน่วยงาน และภาคเอกชนญี่ปุ่นมาอย่างต่อเนื่อง โดยประสบผลสำเร็จกับความร่วมมือ บริษัท มิตซูบิชิฯ พร้อมพันธมิตรเครือข่าย ซึ่งได้พัฒนา EEC Automation Park ให้เป็นฐานหลักขับเคลื่อนประยุกต์ใช้ ระบบหุ่นยนต์และออโตเมชัน สร้างความเชื่อมโยงให้ภาคอุตสาหกรรมพัฒนาและปรับตัวไปสู่โรงงานอัจฉริยะใช้นวัตกรรมนำการผลิต พัฒนาให้เกิดอุตสาหกรรม 4.0 ในพื้นที่อีอีซี
รวมทั้งได้ร่วมกับกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น (METI) JETRO และหอการค้าญี่ปุ่นกรุงเทพ (JCC) ชักจูงนักลงทุนญี่ปุ่นมาลงทุนผลักดันการใช้ระบบหุ่นยนต์และออโตเมชัน พัฒนา Smart Factory 4.0 ในไทย โดยสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม (FIBO) มจธ. คาดว่าภายใน 3 ปีจากนี้การลงทุนอุตสาหกรรมดิจิทัลจะมีมูลค่าสูงถึง 500,000 ล้านบาท ก่อให้เกิดการลงทุน 5G ระบบหุ่นยนต์ ออโตเมชันในอีอีซีไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท/ปี สร้างงาน รายได้ให้คนไทย และสนับสนุนให้ภาคการผลิตของไทย มีขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจได้ทัดเทียมทั่วโลก
โดยอีอีซีได้ตั้งเป้าหมายภายในปี 65 นำโรงงานอุตสาหกรรมในอีอีซีทำงานร่วมกับธุรกิจที่ให้บริการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายและเทคโนโลยี (System Integrators) หรือ SI พร้อมสนับสนุนให้เข้าสู่ระบบออโตเมชันไม่น้อยกว่า 200 แห่ง และภายใน 3 ปีข้างหน้า (ปี 2568) ไม่น้อยกว่า 6,000 แห่ง คาดว่าไม่เกิน 5 ปีจะสามารถปรับสู่โรงงานอัจฉริยะใช้เทคโนโลยีขั้นสูง Digital Manufacturing 4.0 ได้ไม่น้อยกว่า 10,000 โรงงาน ช่วยให้ต้นทุนการผลิตลดลง ลดอัตราการเสื่อมของเครื่องจักร ลดภาระงานช่วยประหยัดพลังงาน ยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทย เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดโลก สร้างรายได้ให้แรงงานไทย ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นอย่างยั่งยืน
ดร.อภิชาต ทองอยู่ ประธานคณะทำงาน EEC HDC กล่าวว่า อีอีซีได้มีความร่วมมือกับหน่วยงานและภาคเอกชนญี่ปุ่นอีกด้านที่สำคัญ คือ การเร่งสร้างบุคลากรเข้ามารองรับอุตสาหกรรมนวัตกรรมขั้นสูง ซึ่งได้ตั้งเป้าภายใน 3 ปีจะสามารถพัฒนาทักษะบุคลากรในอีอีซี (New Skill, Up-Skill, Re-Skill) ในด้าน 5G, ดิจิทัล, Network ให้ได้ไม่น้อยกว่า 50,000 คน โดยขณะนี้ได้ขับเคลื่อนผ่าน EEC Automation Park ร่วมกับทางมิตซูบิชิฯ และพันธมิตรเครือข่าย ซึ่งได้อบรมบุคลากรด้านระบบออโตเมชันแล้วกว่า 1,000 คน และขณะนี้ได้เตรียมอบรมอยู่ในแผน ซึ่งคาดว่าภายในปี 2565 นี้จะสามารถผลิตบุคลากรทักษะสูงด้านดิจิทัลได้เพิ่มกว่า 2,000 คน
พร้อมนี้ การพัฒนาทักษะบุคลากรด้านดิจิทัล อีอีซีได้ร่วมกับกรมสรรพากรผลักดันให้ EEC Automation Park และ FIBO เป็นศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรม 4.0 เพื่อสนับสนุนภาคเอกชนบริจาค และหักภาษีได้สูงสุด 100 ล้านบาท และภายในปี 2565 คาดจะสามารถขยายศูนย์ส่งเสริมฯ ได้อีก 2 แห่ง รวมทั้งอีอีซี ได้ขยายผลความร่วมมือกับ กระทรวงการอุดมศึกษาฯ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทำข้อตกลง “ปฏิญญาวัดไตรมิตร” เพื่อร่วมกันเร่งขับเคลื่อนการพัฒนาบุคลากรให้ได้ตามเป้าโดยเร็ว