กบง.ยกเลิกประชุมด่วนหลังมีวาระจะพิจารณาแนวทางการปรับลดการผสมไบโอดีเซลในดีเซลจากดีเซล B5 เกรดเดียวเป็น B3 หวังช่วยลดราคาขายปลีกลงราว 30 สตางค์/ลิตร หลัง ครม.เคาะลดภาษีฯ 5 บาท 2 เดือนประกอบกับหลายส่วนคัดค้าน
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานแจ้งว่า วันนี้ (17 พ.ค.) ได้ยกเลิกการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงานเป็นประธาน ซึ่งเดิมได้นัดประชุมในบ่ายวันนี้จะหารือเรื่องการลดต้นทุนดีเซลให้ต่ำที่สุด ด้วยการปรับลดส่วนผสมไบโอดีเซลในดีเซลจากปัจจุบันผสม 5% หรือ B5 ให้เหลือ 3% หรือ B3 (มติ กบง.ให้ลดส่วนผสมไบโอดีเซลจากน้ำมันพื้นฐานบี 10 เป็นบี 5 ถึงสิ้นเดือน มิ.ย. 65) ซึ่งจะทำให้ลดราคาดีเซลลงได้อีกราว 30 สตางค์/ลิตร และยังช่วยให้มีน้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ) เพื่อการบริโภคในตลาดเพิ่มขึ้นอีกราว 30,000 ลิตร
"นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังานในฐานะประธานกบง.ได้สั่งให้ยกเลิกการประชุมหลัง ครม.ได้มีการลดภาษีฯ ดีเซล 5 บาท/ลิตร ประกอบกับมีหลายส่วนไม่เห็นด้วย หากลดส่วนผสมไบโอดีเซลก็อาจกลายเป็นปัญหาการเมืองตามมาเพราะพาณิชย์เองก็ไม่สนับสนุนหลังมีกระแสความไม่เห็นด้วยของผู้ปลูกปาล์ม และกลุ่มผู้ผลิตไบโอดีเซล" แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานกล่าว
นอกจากนี้ การประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นวันครบกำหนด ทบทวนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์ ว่าจะคงราคาดีเซลในสัปดาห์นี้ไว้ที่ 32 บาทต่อลิตรเช่นเดิมไปอีก 1 สัปดาห์ต่อหรือไม่หลังจาก ครม.มีมติลดภาษีดีเซล ตามแผนการขึ้นแบบขั้นบันได ไม่เกิน 1 บาท/ลิตร และราคาไม่เกิน 35 บาท/ลิตร
ปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอุดหนุนดีเซลประมาณ 10 บาท/ลิตร และฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ 15 พ.ค. ติดลบ 72,062 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 37,854 ล้านบาท บัญชีแอลพีจีติดลบ 34,208 ล้านบาท ขณะที่ยังคงมีเงินไหลออกในการอุดหนุนน้ำมันรวมเฉลี่ยวันละ 600 ล้านบาท แอลพีจีวันละ 80 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมา กบน.ได้พยายามบริหารทุกด้านทั้งลดการอุดหนุนแก๊สโซฮอล์อี 85 อี 20 แม้จะได้เงินเพียงเล็กน้อยแต่ก็มาช่วยเสริมสภาพคล่องได้ ขณะที่กระแสเงินสดกองทุนน้ำมันฯ มีหมุนเวียน 1.2 หมื่นล้านบาทจะหมดลงจะทำให้กองทุนน้ำมันฯ ขาดสภาพคล่องช่วง มิ.ย.นี้ ดังนั้น กระทรวงการคลังกำลังหารือกับสถาบันการเงินภาครัฐเพื่อสรุปแผนเงินกู้ให้กองทุนน้ำมันฯ วงเงิน 2- 3 หมื่นล้านบาทภายในสัปดาห์หน้า
ส่วนแอลพีจี ตามมติ กบง.เมื่อ 18 มี.ค. 65 ได้เห็นชอบให้ปรับขึ้นราคาขายปลีก 3 บาท/กิโลกรัม (กก.) โดยปรับขึ้นเดือนละ 1 บาท/กก.เป็นเวลา 3 เดือน (เม.ย.-มิ.ย.) โดยราคา LPG จะขยับเป็น 363 บาท/ถัง (15 กก.) ในเดือน มิ.ย. ดังนั้น ก.พลังงานกำลังพิจารณาแนวทางว่าจะสามารถดูแลแอลพีจีต่ออย่างไรจากแผนวิกฤต คือจะเข้ามาดูแลราคาแอลพีจีเมื่อสูงกว่า 363 บาท/ถังขนาด 15 กก. จะต้องขยับราคาขึ้นหรือลดการอุดหนุน เพราะแนวโน้มปีนี้ราคาแอลพีจีคาดว่าจะสูงกว่าราคาวิกฤตตลอดทั้งปี ในขณะที่กองทุนน้ำมันมีปัญหาสภาพคล่อง โดยปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯ อุดหนุน LPG อยู่ถึง กก.ละ 17.79 บาท และ กบน.ได้ขยายกรอบวงเงินการดูแลราคา LPG เป็น 36,000 ล้านบาทหลังจากที่เดิมอยู่ที่ 33,000 ล้านบาท ในขณะที่ราคาตลาดโลกหรือซีพีอยู่ที่ประมาณ 850 เหรียญสหรัฐต่อตัน