LINE SHOPPING ผู้นำ Social Commerce ของไทย เปิดตัวแคมเปญใหม่ “เข้าใจคนขาย ได้ใจคนซื้อ ต้อง LINE SHOPPING” สร้างการรับรู้จุดเด่นของแพลตฟอร์ม พร้อมเผยวิสัยทัศน์ “LIBERTY TO WIN” ประกาศอิสรภาพแก่นักขายออนไลน์สู่ความสำเร็จบน LINE SHOPPING อย่างยั่งยืน เร่งปลดล็อกทุกข้อจำกัดของการขาย เดินหน้าพัฒนาศักยภาพให้กับร้านค้า SMEs ไทยให้แข็งแกร่ง พร้อมแข่งขันสมรภูมิอีคอมเมิร์ซ
นายเลอทัด ศุภดิลก ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจอีคอมเมิร์ซ LINE ประเทศไทย กล่าวว่า LINE SHOPPING ในฐานะผู้นำ Social Commerce ของไทย ยึดมั่นในพันธกิจที่ต้องการช่วยร้านค้า SMEs ไทยให้สามารถทำธุรกิจได้อย่างยั่งยืนและแข่งขันได้ โดยปัจจุบันมีจำนวนร้านค้ามากกว่า 370,000 ร้าน และมีมูลค่าธุรกรรมรวมในตลาด (Gross Merchandise Value) เติบโตถึง 97% จากปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่า Social Commerce ได้กลายมาเป็นช่องทางการขายที่มีความสำคัญและมีประสิทธิภาพ สามารถตอบโจทย์พฤติกรรมนักช้อปชาวไทยได้อย่างดี
ด้วยวิสัยทัศน์ LIBERTY TO WIN ที่ LINE SHOPPING มุ่งหวังในการช่วยปลดล็อกทุกข้อจำกัด และเพิ่มโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการทุกราย โดยเฉพาะกลุ่ม SME ไปจนถึงกลุ่ม Micro Business หรือผู้ประกอบการรายย่อย ที่อาจมีข้อจำกัดทางเงินทุนและทรัพยากรต่าง ๆ โดย LINE SHOPPING มีนโยบายส่งเสริม 3 ด้านหลัก ดังนี้
1. Empower Partnership Technology: สนับสนุนเทคโนโลยีช่วยบริหารจัดการร้านด้วย LINE SHOPPING APIs ที่ LINE SHOPPING จับมือร่วมเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการด้านอีคอมเมิร์ซชั้นนำ อาทิ aCommerce, Zort และ MyCloudFulfilment ซึ่งการเปิด API กับพาร์ทเนอร์เหล่านี้ จะเป็นประโยชน์กับร้านค้าที่ต้องบริหารสินค้าคงคลังจำนวนมาก รวมถึงร้านค้าที่มีช่องทางขายบนหลากหลายแพลตฟอร์ม ให้สามารถบริหารจัดการร้านค้าได้สะดวกยิ่งขึ้นจากที่เดียว อีกทั้งยังสามารถทำกิจกรรมการตลาดกับลูกค้าได้โดยตรง อาทิ การแจกคูปองส่วนลด เป็นการช่วยสนับสนุนให้ร้านค้าสามารถขยายธุรกิจได้อย่างไร้ข้อจำกัด โดยไม่ต้องลงทุนสร้างทุกระบบด้วยตนเอง
2. Empower Shopping Experience: ช่วยเพิ่ม Traffic เข้าสู่ร้านค้า โดยการสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สนุก ไม่เหมือนใคร ด้วย LINE POINTS โปรแกรมสะสมพอยท์สุดคุ้ม และ Promotion Campaign ที่ดีไซน์มาอย่าง เข้าใจความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใช้ชีวิตแบบ Life on LINE
3. Empower Knowledge: มอบองค์ความรู้และพัฒนาความรู้ให้กับนักขาย ในการขยายธุรกิจด้วยหลากหลายกิจกรรมพัฒนาศักยภาพ ได้แก่ คลาสเทรนนิ่งนักขาย LINE SHOPPING Seller Academy ที่เปิดให้ร้านค้าทุกระดับเข้าร่วมฟรี, คอนเทนต์สาระน่ารู้และเคล็ดลับช่วยดันยอดขาย, รวมถึงการสร้างคอมมูนิตี้ออนไลน์ที่เปิดพื้นที่ให้ร้านค้ามือใหม่ ได้สอบถามและแลกเปลี่ยนความรู้กับ “ร้านค้ารุ่นพี่” ได้อย่างเป็นกันเอง
นอกจากนี้ LINE SHOPPING ยังได้เปิดตัวแคมเปญ “เข้าใจคนขาย ได้ใจคนซื้อ ต้อง LINE SHOPPING” เพื่อสร้าง แรงบันดาลใจและสร้างความเข้าใจถึงความแตกต่างและจุดเด่นของ LINE SHOPPING ที่สามารถแก้ Pain Point ของร้านค้า SMEs ไทย ใน 4 เรื่องด้วยกัน ได้แก่
1. ช่วยให้ร้านค้าสามารถจัดการการขายได้แบบมืออาชีพและปิดการขายได้ง่ายขึ้น ด้วยระบบจัดการร้านค้าที่เชื่อมต่อผ่านแชท ช่วยให้ร้านค้าออกออเดอร์ผ่านแชทได้ทันที อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับระบบการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและ e-Wallet
2. เปิดพื้นที่สำหรับการสร้าง Branding หรือ Storytelling ของร้านค้าให้โดดเด่น ด้วยเครื่องมือต่างๆ ทั้ง Rich Message / Rich Menu บน LINE OA
3. ช่วยร้านค้าในการสะสมฐานแฟน เพื่อให้ร้านค้าสามารถออกแบบการสื่อสารได้ตรงกลุ่ม
4. ช่วยให้ร้านค้าสร้างยอดขายได้ ด้วย Promotion Campaign ที่ LINE SHOPPING สนับสนุนอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ตัวแทน “ร้านค้ารุ่นพี่” ได้แก่ นางสาวปริณดา เกษสัมมะ เจ้าของร้าน “บะหมี่ 200 แรงหมู” อดีตบริษัททัวร์ผู้ผันตัวมาขายบะหมี่เส้นสด นายเจตน์ โสภิตวิริยาภรณ์ กูรูแก็ดเจ็ตเจ้าของร้าน “Groovy Gang” ขายกล้องติดรถยนต์ และนายกฤศ พัฒนสิงห์ กูรูตะบองเพชรและเจ้าของร้าน “Cookierun Cactus” ได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ดี ๆ จากการเปิดร้านบน LINE SHOPPING ซึ่งต่างยืนยันถึงความใช้งานง่าย และช่วยให้ผู้ประกอบการยุคใหม่สามารถบริหารจัดการธุรกิจได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุนการจัดการ เพิ่มกำไร ร้านค้าสามารถสร้างและรักษาฐานลูกค้าได้เอง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการทำธุรกิจในระยะยาว อีกทั้งยังเปิดรับสินค้าที่หลากหลายประเภทได้ตามความคิดสร้างสรรค์ของ SMEs ไทย
“เรามั่นใจว่าแคมเปญ “เข้าใจคนขาย ได้ใจคนซื้อ ต้อง LINE SHOPPING” จะเป็นหนึ่งแรงผลักดันดีๆ ที่จะช่วยให้นักขายสามารถค้นพบประสิทธิภาพและสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจของตนเองได้อย่างยั่งยืน สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ LIBERTY TO WIN การประกาศอิสรภาพแก่นักขายออนไลน์ สู่ความสำเร็จ บน LINE SHOPPING ที่ช่วยปลดล็อกทุกข้อจำกัดให้กับนักขายออนไลน์ในการดำเนินธุรกิจ” นายเลอทัด กล่าว