ผู้จัดการรายวัน 360 - ตลาดสบู่ 16,000 ล้านคึกคัก “มาดามหลุยส์” ขอเข้าชิงท็อป 3 ด้วยการทุ่มงบตลาด 30 ล้านบาทเจาะกลุ่มผู้บริโภค Masstige พร้อมดึงปอย-ตรีชฎา นั่งแท่นพรีเซ็นเตอร์ ปักธงใน 3 ปีรั้งตำแหน่งท็อป 3 หรือกวาดรายได้ 1,000 ล้านบาทใน 3 ปี
นางสาวหลุยส์ เตชะอุบล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทรทัน โฮลดิ้ง จํากัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ไทรทันฯ เป็นบริษัทอินเวสต์เมนต์ อะไรที่มีจุดเด่นน่าลงทุนก็พร้อมลงทุน ภายใต้ “โกลบอล คอนซูเมอร์” ที่เน้นในส่วนของคอนซูเมอร์โปรดักต์ทางด้านอาหาร ที่ผ่านมาลงทุนไปหลายอย่าง ทั้งด้านแพกเกจจิ้ง อาหารกล่องพร้อมรับประทาน อีซี่โก รวมถึงผลไม้อบแห้งที่เน้นตลาดส่งออกอย่างเดียว ส่งผลให้บริษัทมีจุดแข็งทางด้านดิสทริบิวเตอร์และมาร์เกตติ้ง จึงพร้อมลงทุนในส่วนอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง โดยวาง “ไทรทันรีซอร์สเซส” สำหรับลงทุนทางด้านไลฟ์สไตล์โปรดักต์เป็นหลัก
ในส่วนของไทรทันฯ ถือเป็นครั้งแรกที่ลงทุนทางด้านไลฟ์สไตล์โปรดักต์กับสินค้าตัวแรก คือ สบู่มาดามหลุยส์ ซึ่งนับตั้งแต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 พฤติกรรมผู้บริโภคให้ความสำคัญต่อการดูแลตนเองมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์สินค้ากลุ่มความงามและการดูแลความสะอาด พบว่าเป็นสิ่งที่คนโฟกัสในอันดับต้นๆ เมื่อเวลาใช้จ่ายในร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เกต อีกทั้งยังมีปริมาณการซื้อต่อครั้งสูงขึ้นกว่าในอดีต ทำให้เห็นโอกาสในการสร้างแบรนด์มาดามหลุยส์ให้เกิดขึ้นในครั้งนี้
“สบู่มาดามหลุยส์ มีจุดเริ่มต้นจากตนเองที่มีความสนใจในผิวพรรณจึงอยากส่งต่อสุขภาพผิวที่ดีพร้อมความสะอาดให้กับกลุ่มที่มีความสนใจและรักความสวยงาม ซึ่งได้ร่วมมือกับทางอาร์แอนด์ดี (R&D) ในการพัฒนาสินค้าเพื่อสร้างแบรนด์ มาดามหลุยส์ ซึ่งจะเป็นแบรนด์ที่รวบรวมสิ่งที่เราสนใจและใช้แล้วยืนยันว่าดีมาไว้ด้วยกัน” นางสาวหลุยส์กล่าว
เบื้องต้นของแผนการตลาดนั้น พร้อมใช้งบการตลาด 30 ล้านบาท จะเน้นโฟกัสตลาดแมสทีจ (Masstige) ที่มีปัจจัยบวกกับกลุ่มลูกค้าที่มองหาสินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันที่ให้คุณภาพที่ดีกว่า ในราคาที่ใกล้เคียงกับสินค้าที่มีอยู่แล้วในท้องตลาด โดยสินค้า FMCG ที่กำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวจากสถานการณ์ที่ซบเซามากว่า 2 ปี พร้อมใช้กลยุทธ์พรีเซ็นเตอร์ในการบอกเล่าเรื่องราวคุณค่าของแบรนด์ผ่านทางพรีเซ็นเตอร์ โดยใช้ ปอย-ตรีชฎา เพชรรัตน์
นอกจากนี้ยังใช้การตลาดแบบ Omni channel โดยทางแบรนด์จะเริ่มปูพรมด้วยการใช้สื่อดิจิทัลเพื่อรุกตลาดทั้งในและต่างประเทศไปพร้อมๆ กันอีกด้วย ส่วนช่องทางการจำหน่ายนั้นวางไว้หลากหลาย ตั้งแต่คอนวีเนียนสโตร์ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ บิวตี้รีเทล เช่น 7-11, Matsumoto Kiyoshi, Eve and Boy, Boots, Lotus’s, Tops และ Big C ตลอดไปจนถึงช่องทางออนไลน์ทั้งในประเทศและต่างประเทศทุกแพลตฟอร์ม เช่น Lazada, Shopee, Line My shop, Would you love it, Konvy, Tmall, Amazon และ Alibaba
สำหรับสบู่มาดามหลุยส์ เบื้องต้นมี 4 สูตร 2 ไซส์ ราคา 48 บาท เน้นขายช่องทางออฟไลน์ และ 160 บาทเน้นขายช่องทางออนไลน์ ซึ่งทั้ง 4 สูตร ประกอบด้วย 1. สบู่มาดามหลุยส์ ไบรตามิน สูตรสีส้ม 2. สบู่มาดามหลุยส์ เอ็กซ์ตรีมไวต์ สูตรสีชมพู 3. สบู่มาดามหลุยส์ เคลียร์ แอนด์ดีเฟนด์ สูตรสีเขียว และ 4. สบู่มาดามหลุยส์ เอจดีไฟน์ สูตรสีทอง
ทั้งนี้ ในปี 2563 ตลาดสบู่มีมูลค่า 16,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสบู่ก้อน 8,000 ล้านบาท และสบู่เหลว 8,000 ล้านบาทเท่าๆ กัน ซึ่งในความเป็นจริง กลุ่มสบู่ก้อนมีอัตราการเติบโตที่ดีกว่าสบู่เหลว ทางไทรทันฯ จึงเน้นทำตลาดในกลุ่มสบู่ก้อนเป็นหลัก ซึ่งมีโอกาสทางการตลาดอย่างมากในกลุ่มสินค้าที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ไร้สารเคมี ไม่ก่ออาการแพ้ และตอบโจทย์ผู้บริโภคในทุกกลุ่มทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แต่จำหน่ายในราคาที่คุ้มค่า จึงเป็นเซกเมนต์ที่มาดามหลุยส์เข้ามาเล่น
“บริษัทตั้งเป้าหมายในการเติบโตต่อเนื่องตลอด 3 ปี หรือมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท สืบเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่คาดการณ์ว่าจะกลับมาคึกคักจากนโยบายการเปิดประเทศ โดยตั้งเป้าขึ้นแท่นเป็นท็อป 3 ในตลาดสบู่สูตรพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงได้ ทั้งยังสามารถตอบโจทย์ทั้งเรื่องของความงามและความสะอาดไปได้ในคราวเดียวกัน” นางสาวหลุยส์กล่าว