ทช.เผยขยายถนนชัยพฤกษ์ 10 เลน งบกว่า 902 ล้านบาท คืบหน้า 12% แล้ว ระดมเครื่องมือถมคันทาง และตอกเสาเข็มเจาะขอบสะพานข้ามคลองพระอุดม คาดเสร็จต้นปี 2567 รองรับจราจรเพิ่มโซน กทม.ฝั่งเชื่อมนนทบุรี-ปทุมธานี
นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) กล่าวว่า ปัจจุบัน ทช.อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างโครงการขยายถนนชัยพฤกษ์ จังหวัดนนทบุรี ระยะทาง 6.892 กิโลเมตร ผลงานก่อสร้างมีความคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 12 ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนลงทรายถมคันทาง และงานก่อสร้างเสาเข็มเจาะของสะพานข้ามคลองพระอุดม โดยโครงการก่อสร้างดังกล่าวคาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ในช่วงต้นปี 2567
โครงการดังกล่าวเป็นการรพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของถนนชัยพฤกษ์ให้สมบูรณ์ ให้สามารถรองรับปริมาณการจราจรได้มากขึ้น แก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด รวมถึงช่วยแบ่งเบาการจราจรที่ต้องการเดินทางออกนอกเมืองในช่วงเวลาเร่งด่วนได้อีกทางหนึ่ง เนื่องจากปัจจุบันถนนชัยพฤกษ์เป็นถนนขนาด 6 ช่องจราจร มีปริมาณจราจรสูงกว่า 40,000 คันต่อวัน อันเกิดจากการขยายตัวของพื้นที่จังหวัดนนทบุรีฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ส่งผลให้ถนนชัยพฤกษ์มีสภาพการจราจรที่หนาแน่นและมีแนวโน้มที่จะติดขัดมากขึ้นเรื่อยๆ
ประกอบกับเมื่อถนนราชพฤกษ์-ถนนกาญจนาภิเษก (แนวเหนือ-ใต้) เปิดใช้งาน ยังทำให้ถนนชัยพฤกษ์สามารถเชื่อมต่อกับพื้นที่จังหวัดปทุมธานีได้รวดเร็วและสะดวกมากยิ่งขึ้น จึงเป็นการดึงดูดปริมาณจราจรให้เข้ามาใช้เส้นทางถนนชัยพฤกษ์มากตามไปด้วย
โครงการก่อสร้างถนนชัยพฤกษ์ จะแบ่งเป็นงานก่อสร้างปรับปรุงถนนคู่ขนานระดับดิน ขนาด 2 ช่องจราจร ต่อทิศทาง จากเชิงลาดสะพานพระราม 4 ถึงทางแยกต่างระดับถนนราชพฤกษ์ และงานปรับปรุงขยายผิวจราจร ขนาด 1 ช่องจราจร ต่อทิศทางจากทางแยกต่างระดับถนนราชพฤกษ์ถึงถนนบางกรวย-ไทรน้อย รวมระยะทางทั้งหมด 6.892 กิโลเมตร พร้อมก่อสร้างสะพานข้ามคลองพระอุดม, สะพานข้ามคลองบางภูมิ รวมจำนวน 4 แห่ง และงานก่อสร้างทางเท้า ระบบระบายน้ำ ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างรวม 902 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ทช.ได้ทำการปิด-เบี่ยงช่องจราจรบริเวณทางกลับรถใต้สะพานข้ามคลองพระอุดม บนถนนชัยพฤกษ์ จังหวัดนนทบุรี บริเวณ กม.ที่ 1+250 (ฝั่งขาเข้าสะพานพระราม 4) และบริเวณ กม.ที่ 0+375 (ฝั่งขาเข้าถนนราชพฤกษ์) เพื่อดำเนินงานก่อสร้างสะพานข้ามคลองบนทางขนานถนนชัยพฤกษ์ โดยได้ดำเนินการปิด-เบี่ยงช่องจราจรไปจนกว่างานก่อสร้างจะแล้วเสร็จ ซึ่งผู้ใช้เส้นทางยังสามารถกลับรถได้โดยใช้ช่องทางเบี่ยงขนาด 1 ช่องจราจร
ทั้งนี้ จึงขอความร่วมมือให้ผู้ใช้เส้นทางโปรดสังเกตป้ายจราจร รวมถึงปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ อย่างเคร่งครัด เพื่อความสะดวกปลอดภัยในการเดินทาง