บริษัท เวียตเจ็ท เอวิเอชั่น จอยท์สต็อค (VJC) เผยผลประกอบการประจำไตรมาส 1/2565 สอดคล้องการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยว
รายงานงบการเงิน ไตรมาส 1/2565 ของเวียตเจ็ทแสดงกำไรก่อนหักภาษีขยายตัว 113% จากการฟื้นฟูอย่างรวดเร็วของธุรกิจการขนส่งผู้โดยสารและการเติบโตของธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศ ซึ่งเติบโตขึ้นถึงร้อยละ 76 และร้อยละ 94 ตามลำดับ ในไตรมาส 1/2565
ในไตรมาสแรก รายได้รวมของเวียตเจ็ทอยู่ที่ 197 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6.79 พันล้านบาท) ขณะที่กำไรหลักหักภาษีอยู่ที่ 10.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 365.9 ล้านบาท) โดยขยายขึ้นร้อยละ 12 และ 98 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับผลประกอบการของไตรมาสเดียวกันในปี 2564
ด้านธุรกิจการขนส่งทางอากาศ รายได้ของเวียตเจ็ทในไตรมาสแรกอยู่ที่ 145 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 5 พันล้านบาท) ยังผลให้กำไรหลังหักภาษีของบริษัทแม่อยู่ที่ 1.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 58.6 ล้านบาท)
ภาคส่วนการบินและการท่องเที่ยวของเวียดนามกลับมาคึกคักอีกครั้งตั้งแต่ปลายปี 2564 ตอบสนองความต้องการเดินทางท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้น ในช่วงสามเดือนแรกของปี 2565 เวียตเจ็ทได้กลับมาให้บริการเครือข่ายเส้นทางบินภายในประเทศเวียดนามทุกเส้นทาง พร้อมกลับมาให้บริการเส้นทางบินระหว่างประเทศตามปกติ โดยได้ให้บริการเที่ยวบินแล้วกว่า 20,000 เที่ยวบิน ให้บริการผู้โดยสารแล้วกว่า 3 ล้านคน บนกว่า 60 เส้นทางบินทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ
จำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารที่เวียตเจ็ทให้บริการในไตรมาส 1/2564 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 50 และร้อยละ 55 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2564 แสดงถึงการฟื้นฟูอย่างแข็งแกร่งภายหลังการระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ขณะที่การขนส่งสินค้าทางอากาศ เวียตเจ็ทได้ขนส่งสินค้าแล้วกว่า 12,500 ตัน ในไตรมาส 1/2565
ในแง่การขยายฝูงบิน เวียตเจ็ทได้รับมอบอากาศยานลำตัวกว้าง รุ่น A330 จำนวนสองลำเข้าสู่ฝูงบิน และคาดว่าจะรับมอบลำที่สามสู่ฝูงบินเร็ว ๆ นี้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่โดดเด่นของเวียตเจ็ท ในขณะที่สายการบินอื่น ๆ ในเวียดนามยังคงเน้นการให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศเป็นหลักตั้งแต่ต้นปี 2565
พร้อมกันนี้ เวียตเจ็ทได้เผยงบการเงินที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว โดยบริษัทแม่ของเวียตเจ็ทมีรายได้ที่ 394 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 13.5 พันล้านบาท) โดยมีกำไรหลังหักภาษีที่ได้รับการตรวจสอบแล้วขยายขึ้นร้อยละ 91
ทั้งนี้ รายได้รวมและกำไรหลักหักภาษีของเวียตเจ็ทในปี 2564 อยู่ที่ 556 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 19.17 พันล้านบาท) และ 3.47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 119.6 ล้านบาท) ตามลำดับ
ในปี 2564 สินทรัพย์รวมของเวียตเจ็ทอยู่ที่เกือบ 2.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 77.55 พันล้านบาท) โดยอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 0.9 ขณะที่อัตราส่วนสภาพคล่องทางการเงินอยู่ที่ 1.6 ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดที่ดีในอุตสาหกรรมการบิน
ในปี 2564 เวียตเจ็ทให้บริการเที่ยวบินถึง 42,000 เที่ยวบิน ขนส่งผู้โดยสารกว่า 5.4 ล้านคน ทั้งยังขนส่งสินค้าทางอากาศรวมกว่า 66,000 ตัน โดยมีอัตราเติบโตของรายได้จากการขนส่งสินค้าทางอากาศอยู่ที่ร้อยละ 200 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
นับตั้งแต่การก่อตั้งในปี พ.ศ. 2557 สายการบินไทยเวียตเจ็ทดำเนินงานร่วมกับ เวียตเจ็ท กรุ๊ป มุ่งมั่นขยายเครือข่ายเส้นทางบินและมอบโอกาสในการเดินทางแก่นักท่องเที่ยวสู่หลากหลายเส้นทางทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ด้วยบริการที่เป็นมิตรและสนุกสนาน โดยให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการต้นทุนและการปฏิบัติการที่มีประสิทธิภาพ มอบโอกาสในการเดินทางที่มากขึ้นด้วยบัตรโดยสารราคาประหยัด พร้อมบริการที่หลากหลาย สอดรับกับความต้องการของผู้โดยสาร
สายการบินไทยเวียตเจ็ทได้รับรางวัล “สายการบินโลว์คอสที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งปี 2563” จากนิตยสารโกลบอล บิสซิเนส เอาท์ลุค กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ทั้งยังได้รับรางวัล “สารการบินที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเป็นมิตรมากที่สุดประจำปี 2564” โดยนิตยสารอินเตอร์เนชั่นแนล ไฟแนนซ์ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เน้นย้ำบริการที่ยอดเยี่ยม ตอกย้ำพันธกิจหลักของสายการบินฯ ในการให้บริการด้วยความสนุกสนานและเป็นมิตร ควบคู่กับความปลอดภัย ตรงต่อเวลา และราคาที่เข้าถึงได้
ปัจจุบัน สายการบินไทยเวียตเจ็ทให้บริการครอบคลุม 14 เส้นทางบินภายในประเทศ ได้แก่ เส้นทางบินจากกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่ เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต กระบี่ อุดรธานี หาดใหญ่ ขอนแก่น นครศรีธรรมราช อุบลราชธานี และสุราษฎร์ธานี เส้นทางบินข้ามภูมิภาค จากภูเก็ต สู่ เชียงใหม่ เชียงราย และอุดรธานี รวมถึงเส้นทางบินตรงจาก หาดใหญ่ สู่ เชียงราย พร้อมกันนี้ สายการบินฯ ได้ขยายเส้นทางบินระหว่างประเทศสู่หลากหลายจุดหมายปลายทางในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เชื่อมต่อประเทศไทย กับ เวียดนาม ไต้หวัน สิงคโปร์ และอีกหลายจุดหมายปลายทางทั่วทั้งภูมิภาค