ผู้จัดการรายวัน 360 - อาร์เซลิก ฮิตาชิ ปักหมุดสำนักงานใหญ่ในไทย จัดเต็มสร้างแบรนด์ฮิตาชิให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง ชูเครื่องซักผ้าเรือธง ตามรอยความสำเร็จของตู้เย็น มุ่งพัฒนานวัตกรรม เจาะตลาดพรีเมียม เพิ่มไลน์อัพสินค้าใหม่สู่ตลาดทั้งไทยและต่างประเทศ มั่นใจยอดขายจะทำได้ดีเช่นปีก่อนๆ
นายซาแฟร์ อัสทูเนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เซลิก ฮิตาชิ โฮม แอพพลายแอนซ์ จำกัด เปิดเผยว่า อาร์เซลิก ฮิตาชิ โฮม แอพพลายแอนซ์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2564 ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท อาร์เซลิก จำกัด ถือหุ้น 60% กับบริษัท ฮิตาชิ โกลบอล ไลฟ์ โซลูชั่นส์ จำกัด ถือหุ้น 40% เพื่อผลิต จัดจำหน่าย และให้บริการหลังการขาย เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านแบรนด์ฮิตาชิทั่วโลก (ภายนอกตลาดญี่ปุ่น)
สำหรับการร่วมทุนครั้งนี้ได้ผสานความเชี่ยวชาญและจุดแข็งที่สำคัญของทั้งสองแบรนด์เข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกของบริษัทร่วมทุนนี้ให้มีความเหมาะสมสูงสุด และเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการแข่งขันระดับโลก ที่สำคัญเป็นการก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ โดยบริษัทได้เลือกประเทศไทยเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางการแข่งขันในตลาดเอเชียที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และมีความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคชนชั้นกลางจำนวนมาก
“เราวางรากฐานบริษัทในประเทศไทยเพื่อตอกย้ำชื่อเสียงระดับโลกของผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ฮิตาชิ โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดหลักของเรา ไม่ใช่แค่ด้วยกำลังซื้อที่เพิ่มสูงขึ้นของผู้บริโภคชาวไทย หรือความต้องการในสินค้าที่มีคุณภาพดีเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย แรงงานที่มีทักษะ และสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุน ทำให้ไทยเป็นประเทศที่อุดมไปด้วยปัจจัยอันหลากหลายที่จะพร้อมผลักดันให้ธุรกิจของเราเติบโตได้ ขณะนี้เรามีพนักงานในประเทศไม่น้อยกว่า 5,200 คน เราเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทยและได้วางกลยุทธ์ให้ประเทศเป็นศูนย์กลางของเรา”
ปัจจุบันเราส่งออกผลิตภัณฑ์แบรนด์ฮิตาชิที่ผลิตในประเทศไทยไปยังกว่า 65 ประเทศทั่วโลก และมากกว่า 50% ที่เลือกใช้แบรนด์ฮิตาชิที่ใช้กันในครัวเรือนตามประเทศต่างๆ นั้นผลิตขึ้นที่ฐานผลิตในประเทศไทย ซึ่งหลังจากนี้บริษัทตั้งเป้าสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น ตู้เย็นมัลติ-ดอร์ ไซส์ใหญ่แบบพรีเมียม เครื่องซักผ้าฝาหน้า และเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย รวมถึงขยายหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น เครื่องล้างจาน เครื่องอบผ้า และเครื่องชงกาแฟ พร้อมเสริมด้วยนวัตกรรมที่มีคุณสมบัติโดดเด่นและอัจฉริยะในผลิตภัณฑ์กลุ่มนั้นๆ อีกด้วย
“หากไม่นับญี่ปุ่นแล้ว ไทยถือเป็นตลาดหลักของฮิตาชิ ตามมาด้วยจีนที่ใหญ่และเติบโตเร็วมาก จากนี้จะเน้นพัฒนานวัตกรรม และสินค้ากลุ่มพรีเมียมมากยิ่งขึ้น จากปัจจุบันตู้เย็นถือเป็นสินค้าหลักที่ผู้บริโภคให้การยอมรับและเป็นหนึ่งแบรนด์ในใจ จากนี้จะเน้นกลุ่มเครื่องซักผ้า และอื่นๆ ให้แข็งแกร่งเช่นเดียวกันในอนาคต อย่างไรก็ตาม ในแง่ของงบลงทุน และการตลาดอาจจะไม่สามารถให้ข้อมูลได้ เช่นเดียวกับอัตราการเติบโต แต่มั่นใจว่าปีนี้จะเป็นอีกปีที่น่าพอใจ เห็นได้จากยอดขายที่ฮิตาชิอยู่ในไทยมากว่า 50 ปี” นายซาแฟร์ กล่าวสรุป