“จุรินทร์” ยัน “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” ยังไม่ขึ้น เป็นเพียงการปรับกระบวนการบริหารจัดการภายในทางธุรกิจ ย้ำจะพยายามตรึงให้นานที่สุด ส่วน 18 หมวดสำคัญ ยังตรึงอยู่ ยอมรับน้ำมันกระทบต้นทุนมาก อาจต้องยอมให้ปรับในบางรายการ แต่มีหลัก 3 ฝ่ายอยู่ได้ ทั้งเกษตรกร ผู้ผลิต ผู้บริโภค
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาสินค้าว่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยังไม่มีการอนุมัติให้ปรับราคาขึ้น และตามที่เป็นข่าว คือ กระบวนการบริหารจัดการทางการตลาดภายในของธุรกิจบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เช่น การกำหนดสัดส่วนการขายส่งขายปลีกเป็นกระบวนการภายในทางธุรกิจ ส่วนราคาที่ผู้บริโภค หรือราคาขายปลีก ยังไม่มีการอนุญาตให้ปรับขึ้น โดยกระทรวงพาณิชย์จะพยายามเข้าไปดูให้ดีที่สุด จะตรึงราคาไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้กระทบผู้บริโภคน้อยที่สุด แม้ขณะนี้ราคาน้ำมันจะมีผลสำคัญต่อต้นทุนราคาสินค้าก็ตาม
“กระทรวงพาณิชย์จะพยายามเข้าไปดู ผมได้มอบนโยบายไปแล้ว จะพยายามตรึงราคาให้มากและนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ขณะเดียวกันผู้ประกอบการต้องอยู่ได้ ไม่เช่นนั้นจะหยุดผลิต จะกลายเป็นปัญหาของขาดตลาดตามมา”
ทั้งนี้ ในส่วนของสินค้าสำคัญ 18 หมวดยังพยายามตรึงราคาอยู่ แต่ต้องยอมรับความจริงว่าราคาน้ำมันมีส่วนมาก ทำให้ราคาสินค้าได้รับผลกระทบ อาจต้องให้ปรับขึ้นบ้างในบางรายการที่ต้นทุนสูงขึ้นมาก แต่จะพยายามดูให้อยู่ได้ทั้ง 3 ฝ่าย ทั้งผู้ผลิตวัตถุดิบ โดยเฉพาะเกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค ซึ่งเป็นนโยบายที่ได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในไปดำเนินการ
สำหรับ 18 กลุ่มสำคัญ ประกอบด้วย 1. บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 2. หมวดอาหารสด 3. อาหารกระป๋อง 4. ข้าวสารถุง 5. ซอสปรุงรส 6. น้ำมันพืช 7. น้ำอัดลม 8. นมและผลิตภัณฑ์จากนม 9. เครื่องใช้ไฟฟ้า 10. ผลิตภัณฑ์ซักล้าง 11. ปุ๋ย 12. ยาฆ่าแมลง 13. อาหารสัตว์ 14. เหล็ก 15. ปูนซีเมนต์ 16. กระดาษ 17. ยา เวชภัณฑ์และบริการทางการแพทย์ 18. บริการผ่านห้างค้าปลีกค้าส่ง
ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมฯ ได้ทำการวิเคราะห์ผลกระทบต้นทุนน้ำมันดีเซลต่อราคาสินค้า หากมีการปรับราคาขึ้นสูงสุดเป็น
35 บาท จะทำให้ต้นทุนค่าขนส่งขึ้นมากสุดประมาณ 14% แต่ยืนยันว่ามีผลต่อต้นทุนสินค้าโดยรวมไม่เยอะ ทั้งสินค้าขนาดใหญ่และขนาดเล็ก มีผลต่อต้นทุนรวมสูงสุดไม่ถึง 1% ถือว่าแทบจะไม่ได้กระทบต่อราคาสินค้า เพราะค่าขนส่งเป็นแค่ส่วนหนึ่งของต้นทุนสินค้าเท่านั้น และหากดีเซลขึ้นน้อยกว่านี้ต้นทุนก็จะเพิ่มขึ้นไม่มาก ดังนั้น แม้จะมีการปรับราคาน้ำมันดีเซล ตั้งแต่ 1 พ.ค. 2565 เป็นต้นไป กรมฯ ยังไม่มีการอนุญาตให้สินค้ารายการใดขึ้นราคา และหากพบจำหน่ายสินค้าราคาแพงเกินควร สามารถร้องเรียนมาที่สายด่วน 1569 ได้ กรมฯ จะส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบทันที