ผู้จัดการรายวัน 360 - ‘บมจ.เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์’ หรือ NRF อนุมัติให้บริษัทย่อยในเครือโนฟ ฟู้ดส์ ในสหรัฐอเมริกา เข้าให้ความช่วยเหลือทางการเงินและลงทุนในบริษัท Turtle Island Foods, SPC (“TIF”) ด้วยวงเงินกู้ยืมไม่เกิน 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รับโอกาสเข้าลงทุน TIF ในอนาคต เปิดโอกาส NRF สู่การเป็นผู้ผลิตอาหารโปรตีนจากพืช Top 5 ของโลก
นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF ผู้ผลิต จัดหา และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปรุงรสอาหาร อาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุงสำหรับประกอบอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาหารโปรตีนจากพืช อาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงและพร้อมรับประทาน และเครื่องดื่มสำเร็จรูปชนิดผงและน้ำ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้บริษัทย่อยในเครือโนฟ ฟู้ดส์ ที่จะจัดตั้งขึ้นที่สหรัฐอเมริกา ซึ่ง NRF ถือหุ้น 100% เข้าทำบันทึกข้อตกลงในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินและลงทุนในบริษัท Turtle Island Foods, SPC (“TIF”) ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืชรายใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ในสหรัฐอเมริกา
เนื่องจากมองเห็นศักยภาพในการเป็นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมอาหารโปรตีนจากพืช (Plant-based) มีโรงงานการผลิต ช่องทางการจัดจำหน่ายและเป็นแบรนด์สินค้าที่มียอดขายติดอันดับต้นๆ ในตลาดอุตสาหกรรมอาหารโปรตีนจากพืช (Plant-based) ของสหรัฐอเมริกา และมีโอกาสในการเข้าลงทุน TIF ในอนาคต โดยเงินกู้ยืมดังกล่าว TIF จะนำไปใช้ในการชำระเงินกู้ยืมเดิมจากสถาบันการเงิน และเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท TIF
การทำธุรกรรมครั้งนี้ บริษัทฯ จะสนับสนุนเงินกู้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) แบบมีกำหนดระยะเวลาและมีหลักประกัน โดยมีวงเงินกู้ยืมไม่เกิน 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,187.2 ล้านบาท) ไม่รวมค่าธรรมเนียมจัดการเงินกู้ ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยไม่ต่ำกว่าต้นทุนของแหล่งเงินทุนของบริษัทฯ ตลอดระยะเวลาของสัญญากู้ยืม โดยเป็นดอกเบี้ยที่คงที่ในปีที่ 1 และเป็นดอกเบี้ยแบบลอยตัวตั้งแต่ปีที่ 2 เป็นต้นไป ทั้งนี้เงื่อนไขและระยะเวลากู้ยืมดังกล่าวจะมีอายุไม่เกิน 36 เดือนนับจากวันที่มีการให้เงินกู้ยืม (drawdown)
ทั้งนี้ คาดว่าการทำธุรกรรมดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 ของปี 2565 อย่างไรก็ตาม การช่วยเหลือทางการเงินในครั้งนี้บริษัทฯ มีแผนเตรียมการออกหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน โดยจะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดและได้รับการอนุมัติจากสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม การเข้าทำรายการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่บริษัท TIF ทำให้บริษัทฯ มีสิทธิ์ในการแปลงสภาพจากเงินกู้ยืมเป็นเงินลงทุนในบริษัท TIF (หรือมีหลักการที่เทียบเท่ากับการแปลงสภาพ) ทั้งนี้รายละเอียดและขั้นตอนการแปลงสภาพยังอยู่ในขั้นตอนปรึกษากับที่ปรึกษาทางกฎหมายของบริษัทฯ และผู้ขาย เพื่อให้สอดคล้องหลักกฎหมายในสหรัฐอเมริกา
ด้วยศักยภาพของบริษัท TIF ผลิตและจำหน่ายอาหารจากโปรตีนพืช (Plant-based) ภายใต้แบรนด์ของตัวเอง (Own Brand) เช่น แบรนด์ Tofurky และ Moocho ซึ่งผลิตภัณฑ์ของบริษัท TIF ประกอบไปด้วย แฮม ไส้กรอก ไก่ และชีส เป็นต้น ซึ่งมียอดขายติดอันดับต้นๆ ในสหรัฐอเมริกา โดยมีฐานการผลิตที่แข็งแกร่งอยู่ที่สหรัฐอเมริกา รวมถึงมีช่องทางการจำหน่ายสินค้าที่หลากหลาย และนับเป็นผู้เล่นขนาดใหญ่ในตลาดค้าปลีกและซูเปอร์มาร์เกตชั้นนำ เช่น Walmart และ Kroger เป็นต้น
การลงทุนในครั้งนี้ช่วยเพิ่มขีดความสามารถความเป็นผู้นำด้าน Plant-based Food ให้กับ NRF เปิดโอกาสให้ NRF ก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตอาหารโปรตีนจากพืช Top 5 ของโลก เสริมความแข็งแกร่งและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับทั้ง 2 บริษัท ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ สอดคล้องกับกลยุทธ์ทางภูมิศาสตร์ของ NRF ที่มุ่งเน้นการขยายตลาดและฐานการผลิตไปยังภูมิภาคอื่นๆ ของโลก เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้ารวมถึงเพื่อลดผลกระทบจากปัญหาการขนส่ง โดยการเข้าลงทุนในบริษัท TIF ในครั้งนี้ถือเป็น Strategic move ที่สำคัญของบริษัทฯ ซึ่งส่งเสริมกลยุทธ์ของบริษัทฯ ที่จะนำบริษัทย่อยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำในสหรัฐอเมริกาในอนาคต