กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เผยกระแสคิดถึงเมืองไทยกำลังบูมในไต้หวัน หลังชาวไต้หวันมาเที่ยวเมืองไทยไม่ได้ เหตุติดสถานการณ์โควิด-19 โรงแรมและห้างสรรพสินค้า ต่างพากันจัดเทศกาลอาหารไทยและสินค้าไทย ขายเมนูยอดฮิตและเมนูใหม่ ๆ ไม่เว้นกระทั่ง 7-11 ที่มีเมนูอาหารไทยจำหน่ายด้วย สั่งทูตพาณิชย์ใช้โอกาสนี้ จับมือห้างจัดเทศกาลสินค้าไทยและผลไม้ไทยช่วงเม.ย.-พ.ค. กระตุ้นยอดขาย
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้มอบหมายให้กรมฯ สำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยในประเทศต่าง ๆ โดยกรมฯ ได้รับรายงานจาก น.ส.กัลยา ลีวงศ์เจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมะนิลา (ส่วนที่ 2) ถึงโอกาสในการทำตลาดอาหารไทย และสินค้าไทยในตลาดไต้หวัน หลังจากที่ชาวไต้หวันคิดถึงเมืองไทย แต่ไม่สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้สะดวก เนื่องจากติดสถานการณ์โควิด-19 ที่ยาวนานกว่า 2 ปี โดยปัจจุบันได้เกิดกระแสคิดถึงเมืองไทย โรงแรมและห้างสรรพสินค้าในไต้หวัน ต่างพากันจัดเทศกาลอาหารไทยและสินค้าไทยกันอย่างคับคั่ง เพื่อตอบกระแสความคิดถึงเมืองไทยของชาวไต้หวัน โดยสร้างบรรยากาศเสมือนไปเมืองไทย ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการขาย
ทั้งนี้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 มี.ค.2565 กลุ่มโรงแรมในเครือ Leofoo Tourism Group ซึ่งถือเป็นกลุ่มเงินทุนด้านธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม และสวนสนุกยักษ์ใหญ่ของไต้หวัน ได้จัดแคมเปญพิเศษ Hello Thailand ขึ้น โดยโรงแรมและสวนสนุกในสังกัด ทั้ง Courtyard by Marriott , สวนสนุก Leofoo Village , Leofoo Resort Guanshi , ร้านอาหารกล่องแบบเบนโตะ Leofood และร้านเบเกอรี่ Elite Bakery ได้ออกเมนูอาหารไทยสำหรับการจัดเทศกาลอาหารไทยร่วมกันทั้งหมดกว่า 50 เมนู ซึ่งในส่วนของโรงแรม Courtyard by Marriott ได้มีการประดับตกแต่งให้มีบรรยากาศไทย ๆ ในแบบเมืองทะเลใต้ และในร้านอาหาร Sunrise ซึ่งเป็นร้านอาหารในโรงแรม ก็จะนำเสนอเมนูอาหารไทยเป็นหลัก
โดยนอกจากอาหารยอดนิยมที่ชาวไต้หวันรู้จัก เช่น ต้มยำกุ้ง กะเพราหมู กุ้งกระเบื้อง และปลานึ่งมะนาวแล้ว ยังนำอาหารไทยเมนูใหม่ ๆ ซึ่งผู้บริโภคชาวไต้หวันยังไม่คุ้นเคยมาแนะนำด้วย เช่น แกงมัสมั่นเนื้อ เนื้อน้ำตก รวมไปจนถึงกุ้งมังกรราดซอสไทย กุ้งก้ามกรามเผาและอื่น ๆ รวมกว่า 30 เมนู รวมทั้งยังเสิร์ฟเบียร์ไทยให้ดื่มอย่างเต็มที่ตลอดเทศกาลด้วย
ขณะที่ร้าน The Lounge บาร์เหล้าของทางโรงแรม ก็จะจัดอาหารว่างและของหวานแบบไทย เช่น ข้าวเหนียวมะม่วง รวม 12 เมนูให้ได้ลิ้มลอง ส่วน Leofoo Resort Guanshi ก็จะเปิดตัวอาหารไทย 6 เมนู ที่รวมถึงยำทะเล ต้มยำกุ้ง ต้มข่าไก่ แกงเผ็ดหมู ข้าวไก่ทอด และจะมีการเสิร์ฟชาเย็นตลอดรายการ และร้านอาหารภายในสวนสนุก Leofoo Village มีเมนูพิเศษ คือ ข้าวแกงกะหรี่ไก่และข้าวเกรียบกุ้งแบบไทย ในขณะเดียวกัน ร้านเบนโตะ LeoFood ยังออกเมนูเฉพาะช่วงเทศกาล คือ ข้าวราดหน้าไก่ทอดแบบไทย และผัดเผ็ดทะเลราดข้าว ให้ผู้บริโภคไต้หวันได้มีโอกาสลิ้มลองด้วย
นอกจากนี้ ร้านสะดวกซื้อเชนใหญ่ในไต้หวันทั้ง 4 แบรนด์ คือ 7-11 , Family Mart , Hi-Life และ OK Mart ต่างก็ทยอยออกเมนูอาหารไทยกันอย่างถ้วนหน้า โดยเฉพาะ 7-11 ได้ร่วมมือกับร้านอาหารไทยชื่อดังอย่าง “ส้มตำเด้อ” ในการออกสินค้าแบบ Co-Branding ซึ่งสามารถสร้างกระแสในตลาดไต้หวันได้อย่างดีและขายดีจนทำให้แม้จะจบแคมเปญไปแล้ว แต่ผู้บริโภคยังคงเรียกร้อง จน 7-11 ต้องนำกลับมาขายอีก หรือแม้แต่ Pizza Hut ก็มีการออกเมนูพิซซ่าหน้าต้มยำกุ้งและทอดมันกุ้ง ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งจากผู้บริโภคในไต้หวัน
นายภูสิตกล่าวว่า เพื่อเป็นการผลักดันอาหารไทยและผลไม้ไทยเข้าสู่ตลาดไต้หวันอย่างต่อเนื่อง ทูตพาณิชย์ที่รับผิดชอบไต้หวัน มีแผนที่จะร่วมมือกับห้างสรรพสินค้าชื่อดังของไต้หวัน คือ Breeze และ SOGO รวมถึง Carrefour ในการจัดเทศกาลสินค้าไทยและผลไม้ไทยในช่วงเดือนเม.ย. และพ.ค. เพื่อส่งเสริมการขายสินค้าไทย ตอบรับกระแสความคิดถึงเมืองไทยของผู้บริโภคไต้หวัน
อย่างไรก็ตาม กรมฯ ยังมีนโยบายผลักดันให้มีจำนวนร้านอาหารไทยในไต้หวันเพิ่มมากขึ้น เพราะในปัจจุบันเชนร้านอาหารไทยที่โด่งดังและเป็นที่นิยมมากที่สุดในไต้หวันกลับเป็นร้านของคนไต้หวัน คือ ร้านอาหารในเครือ TTFB Group ที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของไต้หวัน โดยมีร้านอาหาร Thai Town , Very Thai และ Thai Noodle ซึ่งมีสาขาทั่วไต้หวันรวมกันมากกว่า 100 แห่ง แต่ร้านอาหารเชนไทย ยังมาเปิดสาขาในไต้หวันไม่มากนัก ปัจจุบันมีร้าน Nara , ส้มตำเด้อ , บ้านผัดไทย และ Baan เป็นต้น ไต้หวันจึงเป็นตลาดที่น่าสนใจของเหล่าร้านอาหารไทยเชนต่าง ๆ ที่ประสงค์จะขยายตลาดไปยังต่างประเทศ เพราะร้านอาหารไทยที่เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว